วิธีติดปลอกแขนไว้ทุกข์ เมื่อใส่ชุดปกติ หรือ ชุดขาว ดำ แบบถูกต้อง

วิธีติดปลอกแขนไว้ทุกข์ เมื่อใส่ชุดปกติ หรือ ชุดขาว ดำ แบบถูกต้อง

ปลอกแขนสีดำ (Black Armband) ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ง่ายและได้ความหมายมากที่สุดในการสื่อสารต่อผู้คนว่าผู้สวมใส่กำลังอยู่ในช่วงของการไว้ทุกข์ หรือมีความต้องการที่จะร่วมรำลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนผู้ล่วงลับ การใช้สัญลักษณ์นี้โดยเฉพาะในวัฒนธรรมตะวันตก เป็นรูปแบบการแสดงออกถึงความเสียใจที่ไม่ใช้คำพูด (Non-Verbal Communication) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่พิธีศพส่วนตัวไปจนถึงการแสดงความเคารพในระดับองค์กรและระดับชาติ ซึ่ง วิธีติดปลอกแขนไว้ทุกข์ นั้น จริงๆแล้ว ก็มีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเช่นเดียวกัน

ประวัติความเป็นมาของปลอกแขนไว้ทุกข์

การใช้ปลอกแขนสีดำ (Black Armband) มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมตะวันตก และได้กลายเป็นสัญลักษณ์สากลในเวลาต่อมา และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่รับวัฒนธรรมนี้มาด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีประวัติคร่าวๆ ดังนี้

1. ยุคเริ่มต้น (ศตวรรษที่ 17) มีหลักฐานภาพวาดเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1614 (พ.ศ. 2157) ที่แสดงให้เห็นขุนนางสวมปลอกแขนสีดำเพื่อไว้ทุกข์ แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก

2. ยุควิกตอเรียน (Victorian Era - ศตวรรษที่ 19) ประเพณีนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร (ครองราชย์ 1837-1901) โดยเฉพาะหลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายอัลเบิร์ต (Prince Albert) พระสวามี ในปี 1861 ซึ่งพระองค์ทรงไว้ทุกข์เป็นเวลาหลายสิบปี ทำให้การไว้ทุกข์ด้วยสีดำกลายเป็นธรรมเนียมที่เข้มงวด

3. ความจำเป็น ในยุคนั้น การเปลี่ยนตู้เสื้อผ้าทั้งหมดเป็นสีดำมีราคาสูงมาก ปลอกแขนสีดำจึงกลายเป็นทางออกที่ใช้ได้จริงสำหรับ:

  • ผู้ชาย: ที่มักมีชุดสูทหรือเครื่องแบบจำกัด การสวมปลอกแขนทับจึงง่ายกว่า
  • คนรับใช้ หรือผู้มีรายได้น้อย: ที่ไม่สามารถซื้อชุดดำใหม่ได้
  • ทหาร ตำรวจ หรือผู้ในเครื่องแบบ: ที่ไม่สามารถเปลี่ยนสีเครื่องแบบได้ จึงใช้ปลอกแขนสีดำเป็นสัญลักษณ์แทน

4. การปรับใช้ในไทย

  • ธรรมเนียมเดิม: ในอดีต ธรรมเนียมการไว้ทุกข์ของไทยมีความซับซ้อนเรื่องสี (เช่น ผู้น้อยไว้ทุกข์ให้ผู้ใหญ่ใช้สีขาว, ผู้ใหญ่ไว้ทุกข์ให้ผู้น้อยใช้สีดำ, คนทั่วไปที่ไม่ใช่ญาติใช้สีน้ำเงินหรือสีม่วง)
  • การรับอิทธิพลสากล: การแต่งกายไว้ทุกข์ด้วยสีดำล้วนในปัจจุบัน ถือเป็นการปรับตามธรรมเนียมสากล ซึ่งได้รับอิทธิพลตะวันตกมาตั้งแต่ช่วงรัชกาลที่ 5 - รัชกาลที่ 6
  • ปัจจุบัน: การใช้ปลอกแขนสีดำในไทย จึงมักพบเห็นชัดเจนที่สุดในหมู่ข้าราชการที่ต้องสวม "เครื่องแบบปกติขาว" ในพระราชพิธีหรืองานพิธีศพ เพื่อแสดงความอาลัยอย่างถูกต้องตามระเบียบและเป็นสากล

อ้างอิง npg.org.uk | thefashionarchive.ches.ua.edu | Fabulous Folklore

วิธีติดปลอกแขนไว้ทุกข์ แบบเข้าใจง่าย

แนวทางติดปลอกแขนไว้ทุกข์ (ตารางสรุป)

หัวข้อ รายละเอียด
สวมที่แขนข้างไหน สวมที่ แขนซ้าย เสมอ
ตำแหน่งที่สวม สวมที่ ต้นแขนซ้าย เหนือข้อศอก
ขนาดและวัสดุ แถบผ้าสีดำเรียบ (ไม่มีลวดลาย) ทำจากผ้าสักหลาดหรือผ้าโปร่ง ความกว้างประมาณ 4 นิ้ว หรือประมาณ 7–10 ซม.
วิธีการติด (แบบสวม) หากเป็นแบบยางยืด ให้สวมขึ้นไปที่ต้นแขนได้เลย
วิธีการติด (แบบพัน) หากเป็นแถบผ้า ให้พันรอบต้นแขนและใช้เข็มกลัดสีดำกลัดซ่อนไว้ด้านในเสื้อ บางแบบอาจเป็นตีนตุ๊กแก (Velcro) เพื่อความสะดวก

*ตารางจัดทำในโทนขาว–ดำ เพื่อความสุภาพและความเหมาะสมในช่วงไว้ทุกข์

สำหรับการติดปลอกแขนเพื่อไว้ทุกข์นั้น มักจะมีใช้เพื่อแสดงออก เมื่อไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสีดำ และหากเป็นการใส่ชุดสีขาว เป็นกรณีที่ใช้บ่อยที่สุด เช่น ข้าราชการสวมเครื่องแบบปกติขาว (ชุดขาว), นักเรียน/นักศึกษาในเครื่องแบบ, หรือพนักงานที่ต้องใส่ยูนิฟอร์มขององค์กร ให้ติดปลอกแขนสีดำที่แขนซ้าย แต่ถ้าใส่เสื้อดำสุภาพอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องติดปลอกแขนอีก เพราะการแต่งกายสีดำถือเป็นการไว้ทุกข์โดยสมบูรณ์แล้ว

ทำไมต้องสวมปลอกแขนไว้ทุกข์ ที่แขนซ้ายเสมอ?

การสวมปลอกแขนไว้ทุกข์ที่ แขนซ้าย เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมานานในระดับสากล โดยมีเหตุผลหลักๆ เช่น ในเชิงสัญลักษณ์ คือ ข้างซ้ายใกล้หัวใจกว่า เพราะการไว้ทุกข์เป็นเรื่องของความรู้สึก ความโศกเศร้า และความอาลัยที่มาจากใจของผู้ไว้ทุกข์นั่นเอง

หากพูดถึงเรื่องความถนัด ในอดีต ธรรมเนียมนี้มักเกี่ยวข้องกับผู้ที่ต้องสวมเครื่องแบบ (เช่น ทหาร ตำรวจ) หรือผู้ชายที่สวมสูท และคนส่วนใหญ่ถนัดขวา แขนขวามักเป็นแขนที่ใช้ในการทำกิจกรรมหลักๆ เช่น การทำความเคารพ (การตะเบ๊ะ หรือการยกมือไหว้), การจับมือทักทาย, การเขียนหนังสือ หรือการปฏิบัติงาน การสวมปลอกแขนไว้ที่แขนซ้ายซึ่งเป็นข้างที่ไม่ถนัด จึงไม่รบกวนการปฏิบัติภารกิจหรือการเข้าสังคม ทำให้คล่องตัวกว่า

และเมื่อธรรมเนียมนี้เริ่มต้น ในภายหลังก็มีการกำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน แขนซ้ายจึงถูกเลือก และถูกยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาจนกลายเป็นธรรมเนียมสากลที่คนทั่วไปเข้าใจและปฏิบัติตามนั่นเอง

อ่านต่อ

รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

 

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร