Homemade Greek Yogurt เก็บยังไง? เลือกภาชนะแบบไหนถึงสดได้นาน

Homemade Greek Yogurt เก็บยังไง? เลือกภาชนะแบบไหนถึงสดได้นาน

การทำโยเกิร์ตกรีกเองที่บ้านเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการได้ของที่สดใหม่ ทำรับประทานเอง และดีต่อสุขภาพมากๆ ซึ่งในระยะหลังมี Trend การทำ Homemade Greek Yogurt กันมากขึ้น และอาจเป็นกลุ่มเฉพาะที่ชอบเท่านั้น เพราะเนื้อของโยเกิร์ตจะเข้มข้นกว่า โยเกิร์ตธรรมดามาก ซึ่งบางครั้ง โฮมเมดบางแห่งเป็นก้อนเหมือนกับเนยเลยทีเดียว และการทำเองที่บ้านนั้น จะต้องเน้นให้ถูกสุขลักษณะ โดยภาชนะที่ใส่ และวิธีการเก็บกรีกโยเกิร์ต ให้ได้สดนานที่สุด

ทำไมช่วงหลังๆ คนนิยม Homemade Greek Yogurt กันมากขึ้น?

แน่นอนว่ากระแสการรักษาสุขภาพมาแรงในระยะปีหลังๆ ซึ่ง Homemade Greek Yogurt นี่ก็ไม่แพ้ ชาเขียวมัทฉะเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่ามีเหตุผลอื่นๆอีกเช่น การทำเองทำให้สามารถเลือกใช้นมที่มีคุณภาพและไม่ใส่น้ำตาล สารกันบูด หรือสารให้ความข้นหนืดอื่นๆ รวมถึงความคุ้มค่าในการทำเอง สามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน (หากทำถูกสุขอนามัย) และการทำแบบ โฮมเมดนั้น อาจได้ปริมาณมากกว่าซื้อเป็นแบรนด์ รวมถึง ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดด้วย

วิธีการเก็บโยเกิร์ตให้ได้นานที่สุด

เริ่มต้นจาก การทำความสะอาดภาชนะให้ถูกต้อง

เมื่อทำ Greek Yogurt เสร็จแล้ว ก่อนที่จะใส่ภาชนะ จะต้องมีการทำความสะอาด ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการเก็บรักษาโยเกิร์ตประเภทต่างๆเลยทีเดียว โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ล้างด้วยน้ำสบู่ร้อน: ล้างภาชนะด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ เพื่อกำจัดคราบไขมันและสิ่งสกปรก
  • ล้างด้วยน้ำเปล่าให้หมดจด: ล้างฟองสบู่ออกให้หมดเกลี้ยง เพื่อไม่ให้มีสารเคมีตกค้าง
  • ทำให้แห้งสนิท: ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งสนิท หรือปล่อยให้แห้งเองในอากาศ ห้าม ให้มีหยดน้ำหลงเหลืออยู่ เพราะน้ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและทำให้โยเกิร์ตเสียเร็วได้

อ้างอิง tkcleaningservices.com

เลือกภาชนะประเภทไหนดี สำหรับ Homemade Greek Yogurt?

ภาชนะในการเก็บเป็นสิ่งสำคัญมากในการเก็บกรีกโยเกิร์ต เนื่องจากเป็นของหมักดอง จึงจำเป็นต้องเก็บในภาชนะที่ถูกต้องเช่น

  • ภาชนะพลาสติก (กล่องพลาสติกซีล): เป็นตัวเลือกที่สะดวกและน้ำหนักเบา แต่ต้องเลือกประเภทที่ปลอดภัย ควรเป็นพลาสติกสำหรับใส่อาหารที่ระบุว่า BPA Free และ Food Grade เท่านั้น เพราะโยเกิร์ตมีความเป็นกรด และพลาสติกบางประเภทอาจปล่อยสารเคมีออกมาได้ นอกจากนี้ พลาสติกอาจดูดซับกลิ่นและสี ทำให้ภาชนะมีกลิ่นติดได้ในระยะยาว
  • ภาชนะแก้ว: เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะแก้วเป็นวัสดุเฉื่อย (non-reactive) ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร ไม่ดูดซับกลิ่นหรือสี และทำความสะอาดได้ง่ายมาก ทำให้โยเกิร์ตกรีกคงรสชาติและกลิ่นได้อย่างดี
  • ภาชนะสแตนเลส: เป็นอีกตัวเลือกที่ดีและมีความทนทานสูง ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร แต่ไม่นิยมใช้กันเท่าแก้วสำหรับเก็บโยเกิร์ตในบ้าน

อ้างอิง pptvhd36.com | Cultures for health

เก็บในตู้เย็นตั้งอุณหภูมิเท่าไหร่? ทำยังไงไม่ให้มีกลิ่นอาหารอย่างอื่นปน?

สำหรับการเก็บในตู้เย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับตู้เย็นควรอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียสเหตุผลคือ อุณหภูมิในระดับนี้จะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาหารเน่าเสียหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ แต่สำหรับช่อง Freezer ก็ใส่ได้เช่นกัน และควรอยู่ที่ -18 องศาเซลเซียส

วิธีเก็บ ระยะเวลา ข้อดี ข้อเสีย
แช่ในช่องธรรมดา (ตู้เย็น) ประมาณ 1–2 สัปดาห์ เนื้อสัมผัสและรสชาติใกล้เคียงเหมือนเดิม อายุการเก็บสั้นกว่า และต้องระวังกลิ่นปนเปื้อนจากอาหารอื่น
แช่ในช่องฟรีซ ประมาณ 1–2 เดือน (หรือนานกว่านั้น) ยืดอายุการใช้งานได้นานมาก เนื้อสัมผัสเปลี่ยน (เป็นเกล็ด/แยกชั้น) หลังละลาย จึงไม่เหมาะกินเปล่า ๆ แต่เหมาะใช้เป็นส่วนผสมเมนูอื่น

อ้างอิง eatingwell.com

หากบ้านไหนมีตู้เย็นสองตู้ ก็ควรแยกอาหารคาวแช่ตู้เย็นอีกตู้ไปเลย แต่ถ้าไม่มี ควรใช้ภาชนะมีฝาปิดแบบซีล ภาชนะที่มีระบบล็อคหรือซีลยางจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นจากอาหารอื่นๆ ในตู้เย็น เช่น กระเทียม หรือหัวหอม เข้าไปปะปนกับโยเกิร์ตได้ดี แต่อย่างไรก็ดี ภาชนะ BPA Free บางประเภทก็สามารถเก็บได้ดี และปิดสนิทได้เทียบเท่ากับระบบล็อคเหมือนกัน และสำคัญที่สุดการวางกล่อง หรือ ภาชนะเก็บโยเกิร์ต ควรวางไว้ในตู้เย็นแต่ให้ห่างจากอาหารที่มีกลิ่นฉุน หรือกลิ่นแรงจะปลอดภัยที่สุด

กล่องเก็บอาหาร Srithai Superware ตัวเลือกราคาประหยัด

กล่องถนอมอาหารศรีไทยรุ่น FOOD BOX H-SERIES  กล่องนี้ สามารถใช้เก็บกรีกโยเกิร์ตได้ดีมาก เพราะมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนและเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเก็บรักษา Homemade Greek Yogurt

  • ผลิตจากวัสดุ Food Grade และ BPA Free: คุณสมบัติสำคัญนี้ยืนยันว่ากล่องปลอดภัยสำหรับการบรรจุอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีความเป็นกรดสูงอย่างโยเกิร์ต ไม่ต้องกังวลว่าจะมีสารเคมีที่เป็นอันตรายปนเปื้อน
  • ช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม: กล่องสามารถทนต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 ํC ถึง 90 ํC ซึ่งครอบคลุมอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บโยเกิร์ตในทั้ง ตู้เย็นช่องธรรมดา (4 ํC) และ ช่องแช่แข็ง (-18 ํC) ทำให้คุณสามารถเลือกวิธีเก็บรักษาได้ตามความต้องการ
  • ฝาปิดสนิทป้องกันกลิ่นได้ดี: คุณสมบัตินี้ตรงกับคำแนะนำที่ผมได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ การมีฝาที่ปิดสนิทช่วยป้องกันอากาศเข้าและที่สำคัญคือป้องกันกลิ่นจากอาหารอื่น ๆ ในตู้เย็นไม่ให้เข้าไปปะปนกับโยเกิร์ต ทำให้โยเกิร์ตคงรสชาติและกลิ่นดั้งเดิมได้นาน
  • ตัวกล่องใส: ทำให้ง่ายต่อการสังเกตสภาพของโยเกิร์ตที่อยู่ด้านในได้ทันที

 

 

อ่านต่อ

รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

 

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร