เก้าอี้งานวัด เลือกพลาสติก หรือ เหล็ก ใช้กี่ปีถึงคุ้ม

เก้าอี้งานวัด เลือกพลาสติก หรือ เหล็ก ใช้กี่ปีถึงคุ้ม

 

 

การจัดงานอีเวนท์ใหญ่ๆ บ่อยๆ เก้าอี้นั้นมีความสำคัญค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ เก้าอี้งานวัด เหมือนกันกับ เก้าอี้จัดเลี้ยง ที่สามารถใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ และต้องใช้งานค่อนข้างบ่อย เช่น เช่น งานบุญ งานศพ งานพิธีต่างๆ และงานวัดอื่นๆ ที่ต้องมีการรองรับผู้คนเป็นจำนวนมาก เก้าอี้พลาสติกถือเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับและไม่ว่าจะไปวัดไหนก็ตาม เราจะเห็นเก้าอี้ลักษณะนี้กันแทบทุกวัด ดังนั้นการเลือกใช้เก้าอี้สำหรับงานในวัดจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ที่ควรหยิบยกเอามาคุยกัน

เก้าอี้งานวัด ควรใช้เป็นแบบไหนดี? 

เก้าอี้พลาสติกแบบหนา PP 

เก้าอี้ที่ต้องรองรับสภาพอากาศทุกประเภท ที่มีความต้องการสูงของงานวัดในประเทศไทย คือ เก้าอี้พลาสติกแบบหนา ที่ใช้วัสดุ PP เป็นตัวเลือกที่เป็นที่นิยมที่สุด การเลือกใช้เก้าอี้ประเภทนี้มีปัจจัยหลักมาจากความสมดุลระหว่างต้นทุน ความเรียบง่ายในการใช้งาน และประโยชน์ใช้สอย

เพราะมันมีน้ำหนักเบา สามารถวางซ้อนกันได้เพื่อประหยัดพื้นที่  และเหมาะสมกับการใช้งานทั้งในอาคารและกลางแจ้ง เก้าอี้พลาสติกจึงเปรียบเสมือนเกณฑ์มาตรฐานพื้นฐานที่ใช้ในการเปรียบเทียบกับเก้าอี้ประเภทอื่นๆ ทั้งหมด โดยวัสดุที่ใช้นั้นจะเป็น Virgin Plastic ที่แตกต่างจาก เก้าอี้พลาสติกรีไซเคิล และมีความทนทาน และสวยงามกว่ามาก

การเคลื่อนย้ายสำหรับการจัดเก็บ ก็มีน้ำหนักเบา สามารถขนย้ายได้สะดวกกว่า การวางซ้อน เก้าอี้ประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้วางซ้อนได้จำนวนมากทำให้ประหยัดพื้นที่วัดในการจัดเก็บ โดยไม่ต้องสร้างที่เก็บเพิ่ม โดยอาจเก็บไว้ในศาลาวัด และไม่ต้องกังวลเรื่องแดดฝนมาก

 เก้าอี้เหล็กพับ บางวัดก็มีใช้

แม้ว่าเก้าอี้พลาสติกจะเป็นตัวเลือกหลัก แต่เก้าอี้เหล็กพับก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราเห็นกันในวางวัด ซึ่งจุดเด่นของเก้าอี้ประเภทนี้คือสามารถพับเก็บและประหยัดพื้นที่ได้มากที่สุด รวมถึงความแข็งแรงกว่าพลาสติก และความสามารถในการรองรับน้ำหนักได้มากกว่า

แต่อย่างไรก็ดี เก้าอี้เหล็ก ขึ้นชื่อว่าเหล็กก็จะไม่พ้นจากเรื่องสนิม โดยเฉพาะเมื่อโดนฝน เก็บไว้ในที่ชื้น ไม่ได้ทำให้แห้ง ซึ่งหากจะซื้อเก้าอี้พับเหล็ก ก็ต้องเลือกซื้อแบบ powder coating เพื่อกันสนิม ซึ่งอาจทำให้ราคาแพงกว่า ทั้งหมดนี้ จะมีข้อเสียที่ชัดเจนมากๆเลยคือ เรื่องของน้ำหนัก และ ความสบายในการนั่ง เก้าอี้เหล็กจะนั่งไม่สบายเท่าเก้าอี้พลาสติก และ มีน้ำหนักมากเวลาขนย้ายด้วย

ตารางเปรียบเทียบเก้าอี้: พลาสติก (PP) เกรด A vs เก้าอี้เหล็กพับมาตรฐาน
คุณลักษณะ เก้าอี้โพลีโพรพิลีน (PP) เกรด A เก้าอี้เหล็กพับมาตรฐาน
ต้นทุนเริ่มต้น ต่ำถึงปานกลาง ปานกลาง
น้ำหนัก เบา (ประมาณ 2–2.4 กก.) หนักกว่า
ความทนทานต่อสภาพอากาศ ดีเยี่ยม (ทน UV และฝน) ต่ำ (เกิดสนิมง่ายหากไม่มีการเคลือบ)
การบำรุงรักษา ต่ำ (ทำความสะอาดง่าย) สูง (ต้องการการป้องกันสนิม)
ประสิทธิภาพการจัดเก็บ ดี (วางซ้อนได้) ยอดเยี่ยม (พับแบนได้)
ความสบาย (รุ่นพื้นฐาน) ดี (ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์) พอใช้ (พื้นผิวแข็ง)
ตัวเลือกสี หลากหลาย จำกัด (ส่วนใหญ่เป็นสีดำ/ขาว/เทา)
อายุการใช้งานโดยประมาณ (กลางแจ้ง) ยาวนาน (5–10+ ปี) แปรผัน (1–5 ปี หากไม่ดูแล)
ต้นทุน ต่ำ ปานกลางถึงสูง (จากการบำรุงรักษา/เปลี่ยน)

จะตัดสินใจซื้อแบบไหนดี 

บางคนอาจมองว่า การเช่าเก้าอี้ เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซื้อ แต่อันที่จริงแล้ว ยังคงต้องมาคำนวณลักษณะและความบ่อยใจการใช้งานอยู่ ซึ่งหากมีการใช้งานเก้าอี้บ่อยครั้ง ต้นทุนเฉลี่ยต่อการใช้งานหนึ่งครั้งจะลดลงจนต่ำกว่าราคาเช่าในที่สุด ซึ่งนำไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญตลอดอายุการใช้งานของสินทรัพย์

รวมถึงการใช้งานแบบปุปปับ ถ้าหากเป็นการซื้อ ก็จะมีของพร้อมใช้ สำหรับกิจกรรมทั้งที่วางแผนไว้และที่เกิดขึ้นกะทันหัน โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าและลดความเสี่ยงที่จะไม่มีเก้าอี้ให้เช่าในช่วงฤดูกาลที่มีงานมาก และการซื้อเก็บไว้ก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของทางวัด รวมถึงทางวัดสามารถนำเอาเก้าอี้พวกนี้ไปช่วยงานของชาวบ้านได้ด้วย

ซื้อปีนี้ กี่ปีคืนทุน?

แบบจำลองคำนวณ 5 ปี: ซื้อเก้าอี้พลาสติก PP เกรด A vs เช่าเก้าอี้ (Srithai Superware Style)
สมมติฐาน รายละเอียด หมายเหตุ/อ้างอิง
จำนวนเก้าอี้ที่ต้องการ 200 ตัว
จำนวนกิจกรรมหลักต่อปี 4 ครั้ง/ปี
ราคาซื้อ (เก้าอี้พลาสติก PP เกรด A) 220 บาท/ตัว  
ต้นทุนการซื้อทั้งหมด (ครั้งเดียว) 44,000 บาท (200 × 220)
ราคาเช่า (เก้าอี้พลาสติก, จำนวนมาก) 15 บาท/ตัว/วัน  
ค่าใช้จ่ายต่อกิจกรรม 3,000 บาท (200 × 15)
การคำนวณ 5 ปี (เช่ารายปีสะสมเทียบกับต้นทุนซื้อครั้งเดียว)
ปี เช่าต่อปี เช่าสะสม ซื้อ (ครั้งเดียว) ส่วนต่าง (เช่าสะสม − ซื้อ)
ปีที่ 1 12,000 บาท (4 × 3,000) 12,000 บาท 44,000 บาท −32,000 บาท
ปีที่ 2 12,000 บาท 24,000 บาท 44,000 บาท −20,000 บาท
ปีที่ 3 12,000 บาท 36,000 บาท 44,000 บาท −8,000 บาท
ปีที่ 4 12,000 บาท 48,000 บาท 44,000 บาท +4,000 บาท → จุดคุ้มทุน
ปีที่ 5 12,000 บาท 60,000 บาท 44,000 บาท +16,000 บาท
จำนวนการใช้งานต่อปีมีผลต่อจุดคุ้มทุน
จำนวนกิจกรรม/ปี เช่าต่อปี (บาท) คาดการณ์ปีคุ้มทุน* สรุปเชิงกลยุทธ์
2 ครั้ง/ปี 6,000 บาท (200 × 15 × 2) ≈ 7.3 ปี (มากกว่า 7 ปี) ใช้งานน้อย → เช่าอาจคุ้มกว่าในระยะกลาง
4 ครั้ง/ปี 12,000 บาท ≈ 3.7 ปี (ถึงปีที่ 4) ปริมาณกลาง → ซื้อเริ่มคุ้มตั้งแต่ปีที่ 4
8 ครั้ง/ปี 24,000 บาท ≈ 1.8 ปี (ไม่ถึง 2 ปี) ใช้งานถี่ → ซื้อคุ้มชัดเจนในระยะสั้น
*คำนวณจากจุดตัดที่ “เช่าสะสม = 44,000 บาท” โดยสมมติว่าอัตราเช่าและจำนวนเก้าอี้เท่ากันทุกปี และกิจกรรมคิด 1 วันต่อครั้ง
สรุป: ในสถานการณ์สมมติ (200 ตัว, 4 ครั้ง/ปี) การ ซื้อ จะเริ่มคุ้มกว่า เช่า ในปีที่ 4 แต่ตัวแปรสำคัญที่สุดคือ“จำนวนการใช้งานต่อปี” หากใช้งานน้อยลง จุดคุ้มทุนจะถอยออกไปมาก และถ้าใช้งานถี่ขึ้น จุดคุ้มทุนจะมาถึงเร็วขึ้น และหลายๆวัดอาจมีการใช้แทบทุกวัน (จัดงานศพ ฯลฯ) ซึ่งจะทำให้จุดคุ้มทุนมาเร็วมากๆ

ควรซื้อทีละกี่ตัว?

ควรซื้อเก้าอี้ทีละกี่ตัว? — ใช้ “ความต้องการจริง” กำหนดจำนวน พร้อมกลยุทธ์ Hybrid Model

สำหรับศาลาวัดพื้นที่ 200 ตร.ม. หากจัดแบบโรงภาพยนตร์ (คิด 0.6 ตร.ม./คน) รองรับเก้าอี้ได้ประมาณ 200 ÷ 0.6 = 333 ตัว แต่ถ้าจัดงานเลี้ยง (คิด 1.3 ตร.ม./คน) จะรองรับได้เพียง 200 ÷ 1.3 ≈ 153 ตัว ซึ่งหมายความว่าความจุ “เพดาน” ขึ้นกับรูปแบบการใช้งานและไม่ได้ตายตัวตามสูตรไหน

 

แนวทางที่แนะนำคือ ซื้อเก้าอี้ให้ครอบคลุม 70–80% ของ กิจกรรมที่จัดบ่อยที่สุด ซึ่งถ้าหากมีคนมาเยอะเกินงานก็อาจทำการเช่าเพิ่มเป็นกรณีไป

ตัวอย่างที่ใช้งานได้จริง: กิจกรรมส่วนใหญ่ใช้ ~200 ตัว แต่บางเทศกาลอาจอยากได้ ~350 ตัว ให้ ซื้อ 250 ตัว ไว้เป็นสต็อกถาวร และ เช่าเพิ่ม 100 ตัว เมื่อมีงานใหญ่ (หมายเหตุ: ถ้าจะนั่ง 350 ตัวในศาลาเดิมซึ่งจำกัดที่ ~333 ตัว ต้องขยายพื้นที่/แบ่งโซนเพิ่ม)

ความจุโดยประมาณตามรูปแบบการจัดพื้นที่
รูปแบบ พื้นที่ต่อคน (ตร.ม.) ความจุสูงสุด (ตัว) ต้องทำยังไง
โรงภาพยนตร์ 0.6 ≈ 333 จัดเก้าอี้ชิดกัน เน้นความจุสูง เหมาะพิธี/ฟังเทศน์
งานเลี้ยง 1.3 ≈ 153 มีโต๊ะทางเดิน ใช้พื้นที่มาก เหมาะเลี้ยงพระ/ญาติโยม
วางแผนจำนวน ซื้อมาเก็บไว้ 70%-80% + เช่าเสริม
สถานการณ์ ความต้องการปกติ ความต้องการสูงสุด จำนวนที่ “ควรซื้อ” เช่าเสริมเมื่อจำเป็น
กรณีทั่วไปของวัด ~200 ตัว (จัดบ่อย) ~333 ตัว (เพดานโรงภาพยนตร์) 230–270 ตัว (70–80% ของเพดาน หรือ ~125–160% ของความต้องการปกติ) เติมให้ถึงเป้าหมายงานใหญ่เป็นครั้งคราว
ตัวอย่างเฉพาะ ~200 ตัว ~350 ตัว (ต้องขยายพื้นที่) ซื้อ 250 ตัว (ฐานถาวร) เช่า 100 ตัว ในงานใหญ่ 1–2 ครั้ง/ปี
เทียบต้นทุน: “ซื้อเพิ่ม 100 ตัว” vs “เช่า 100 ตัวในงานใหญ่”
ทางเลือก ค่าลงทุน/ค่าใช้จ่าย ถ้า “งานใหญ่/ปี” = 1 ถ้า “งานใหญ่/ปี” = 2
ซื้อเพิ่ม 100 ตัว 100 × 220 = 22,000 บาท (จ่ายครั้งเดียว) ค่าใช้จ่าย 5 ปี = 22,000 บาท ค่าใช้จ่าย 5 ปี = 22,000 บาท
เช่า 100 ตัว 100 × 15 = 1,500 บาท/ครั้ง 5 ปี = 1,500 × 5 = 7,500 บาท (ถูกกว่าการซื้อ) 5 ปี = 1,500 × 10 = 15,000 บาท (ยังถูกกว่า)
หมายเหตุ: จุดคุ้มทุนของ “เช่า 100 ตัว” เทียบ “ซื้อเพิ่ม 100 ตัว (22,000 บาท)” อยู่ราว ๆ ≥ 3 งานใหญ่/ปี ต่อเนื่อง 5 ปี (เพราะ 1,500 × 5 ปี × 3 งาน = 22,500 บาท)
  • พื้นที่จัดเก็บ: สมมติซ้อนเก้าอี้พลาสติก 25 ตัว/กอง ใช้พื้นที่พื้น ~0.5 × 0.5 = 0.25 ตร.ม./กอง → ซื้อ 250 ตัว ≈ 10 กอง ใช้พื้นที่ ~2.5 ตร.ม. (สมมติฐานเพื่อการวางแผนคร่าว ๆ)
  • ความยืดหยุ่น: Hybrid ช่วยรับมือความผันผวนของจำนวนผู้ร่วมงาน โดยไม่ต้องแบกสินทรัพย์ว่างงานตลอดปี
  • คุณภาพ–ภาพลักษณ์: ซื้อรุ่นเดียวกัน (PP เกรด A) สีเดียวกัน ช่วยให้ภาพรวมเรียบร้อยและทนงานกลางแจ้ง
คำตอบสั้น ๆ: แนะนำ ซื้อเก้าอี้ 250 ตัว เป็นสต็อกหลัก และ เช่าเพิ่ม 100 ตัว เมื่อมีงานใหญ่ 1–2 ครั้ง/ปีวิธีนี้คุมงบได้ดี ลดพื้นที่เก็บ และยังพร้อมขยายความจุได้ทันทีเมื่อถึงฤดูเทศกาล

 ซื้อเก้าอี้พลาสติก ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ราคาโรงงาน ขายส่ง ขายปลีก

 

พบกับเก้าอี้พลาสติกคุณภาพสูงจาก ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ มีให้เลือกทั้ง ราคาโรงงาน, ราคาขายส่ง และ ราคาขายปลีก ครอบคลุมทุกช่วงราคา เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ร้านอาหาร ร้านค้า และธุรกิจจัดเลี้ยง

สั่งซื้อเก้าอี้พลาสติกที่ Srithaionline.com

อ่านต่อเรื่องน่ารู้ในศรีไทย ซุปเปอร์แวร์

รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

 

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร