การเลือก เก้าอี้จัดเลี้ยง หรือ เก้าอี้งานเลี้ยง ที่เหมาะสมเป็นมากกว่าเรื่องของความสวยงามและราคา แต่เป็นการตัดสินใจลงทุนซื้อที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสบการณ์ของแขก ภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือของเจ้าของงาน รวมถึงความคุ้มค่าในการดำเนินงานระยะยาว และการสั่งซื้อก็จะต้องมีแผนการ ซึ่งวันนี้เราจะมาเสนอแนวทางการตัดสินใจจัดซื้ออย่างมีกลยุทธ์ ตั้งแต่ดูความต้องการพื้นฐานไปจนถึงการประเมินมูลค่าทางการเงิน
ก่อนดูเรื่องอื่นๆ ต้องตอบคำถามพื้นฐานให้ได้ก่อนว่า "เก้าอี้พวกนี้จะถูกนำไปใช้ในงานประเภทใด?" การใช้งานสำหรับงานงานดินเนอร์ในโรงแรมหรู แน่นอนว่ามีข้อกำหนดแตกต่างจากเก้าอี้สำหรับงานสัมมนาขององค์กร งานเทศกาลกลางแจ้ง งานวัด หรือโรงอาหารอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น ในงานแต่งงานแบบโต๊ะจีน ผู้ให้บริการจัดเลี้ยงอาจเตรียมเก้าอี้พลาสติกพื้นฐานมาให้ แต่หากผู้จัดงานต้องการเพิ่มความหรูหราของงาน การลงทุนจัดซื้อเก้าอี้ที่มีความหรูหราก็ต้องเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแน่นอน
การเลือกเก้าอี้ไม่ได้เป็นแค่การจัดหาที่นั่ง แต่เป็นการลงทุนที่ต้องคิดถึง Brand Image เก้าอี้ที่เก่า ใกล้เสีย แตก หรือโยกเยก อาจทำให้แขกอยากออกจากงานเร็ว เนื่องจากอาจนั่งไม่สบาย ในทางกลับกัน เก้าอี้ที่แข็งแรง สวยงาม และนั่งสบายจะช่วยทำให้นั่งสบาย และทำให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้จัดงาน ดังนั้น งบประมาณสำหรับเก้าอี้จึงไม่ควรถูกมองเป็นเพียงค่าใช้จ่ายในหมวดอุปกรณ์ (FF&E) เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณด้านการตลาดและความรู้สึกลูกค้าอีกด้วย
อ้างอิง Investopedia.com
แม้ว่าคนส่วนใหญ่ หรือจัดซื้อจะมองถึงเรื่องของราคา และต้องเป็นราคาถูก แต่ถ้ามองถึงแผนการใช้ในระยะยาว การตัดสินใจจากราคาเพียงอย่างเดียว อาจไม่ควรเป็นปัจจัยหลัก เพราะอาจทำให้ผิดพลาดได้ ซึ่งจริงๆแล้ว ควรเริ่มต้นใช้แผนต้นทุนรวมการเป็นเจ้าของ หรือที่เรียกว่า Total cost of ownership (TCO) สำหรับการคำนวณ
เก้าอี้ราคาถูกอาจผลิตจากวัสดุคุณภาพต่ำ เช่น การใช้แผ่นปาร์ติเกิล (แผ่นขี้เลื่อยอัด) แทนแผ่นไม้อัดในส่วนเบาะนั่ง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะบวมเมื่อโดนความชื้นและมีอายุการใช้งานสั้น ในขณะที่การลงทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ได้เก้าอี้ที่มีโครงสร้างแข็งแรงกว่า เช่น โครงเหล็กขนาด 7 หุน แทนที่จะเป็น 6 หุน หรือใช้วัสดุภายในที่มีคุณภาพสูง จะส่งผลให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น ลดความถี่ในการซ่อมแซมและเปลี่ยนใหม่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะทำให้มีต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ต่ำกว่า
อ้างอิง Wikipedia
เหล็กมีความแข็งแรงและความทนทานสูงสุด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เช่น ห้องประชุมหรือโรงอาหาร อย่างไรก็ตาม เหล็กทั่วไปมีโอกาสเกิดสนิมได้หากการเคลือบผิวไม่ดีพอ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้งานกลางแจ้งที่ไม่มีหลังคา อีกประการคือ ความหนาของโครงเหล็ก (เหล็กกล่อง 6 หุน เทียบกับ 7 หุน) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรง เก้าอี้จำนวนมากในตลาดใช้เหล็กชุบโครเมียมเพื่อความสวยงามและป้องกันการกัดกร่อน ในขณะที่สเตนเลสให้ความทนทานต่อสนิมที่เหนือกว่า เหมาะสำหรับงานกลางแจ้ง แต่มีความเปราะมากกว่าเหล็กทั่วไป
มีข้อดีคือน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก กันน้ำ และมักเป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุด แต่ข้อเสียคืออาจรับน้ำหนักได้น้อยกว่าและอาจเปราะหรือกรอบได้หากสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม พลาสติกเกรดสูงมีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น เช่น โพลีโพรพิลีน (Polypropylene - PP) มักใช้ใน เก้าอี้พลาสติกแบบหนา ที่มีจุดหลอมเหลวสูง ทนทานต่อสารเคมี และสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ส่วนโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate - PC) ซึ่งมักใช้ทำเก้าอี้ใสสไตล์ "Ghost" หรือ "Chiavari" ได้รับการยกย่องว่าเป็นพลาสติกใสที่แข็งแรงและทนความร้อนได้ดีที่สุด
ไม้ให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรา แต่คุณภาพของไม้ที่ใช้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นปาติเกิลในโครงสร้างภายใน และเลือกใช้แผ่นไม้อัดซึ่งทนทานต่อความชื้นได้ดีกว่า ไม้คุณภาพสูงเช่นไม้ยางพาราที่ผ่านการอบและเคลือบอย่างดีจะมีความทนทานมากกว่า
วัสดุ | จุดแข็งที่สำคัญ | จุดอ่อนที่สำคัญ | กรณีการใช้งานทั่วไป | ระดับการบำรุงรักษา | ช่วงราคาโดยประมาณ |
---|---|---|---|---|---|
เหล็ก (Steel) | รับน้ำหนักได้สูงสุด, ทนทานสูง, อายุการใช้งานยาวนาน | เสี่ยงต่อการเกิดสนิมหากเคลือบไม่ดี, น้ำหนักมาก | ห้องประชุม, โรงแรม, งานเลี้ยงขนาดใหญ่, สถานที่ใช้งานหนัก | ปานกลาง (ตรวจสอบรอยขีดข่วน/สนิม) | $$ |
สเตนเลส (Stainless Steel) | ทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ดีเยี่ยม | ราคาสูงกว่าเหล็ก, มีความเปราะมากกว่า | งานกลางแจ้ง, บริเวณริมสระน้ำ, พื้นที่ที่มีความชื้นสูง | ต่ำ | $$$ |
อลูมิเนียม (Aluminum) | น้ำหนักเบา, ไม่เป็นสนิม | รับน้ำหนักได้น้อยกว่าเหล็ก, ราคาสูงกว่าพลาสติก | งานที่ต้องการการเคลื่อนย้ายบ่อย, งานกลางแจ้ง | ต่ำ | $$ |
พลาสติก (PP) | น้ำหนักเบา, กันน้ำ, มีหลายสี, ราคาประหยัด, รีไซเคิลได้ | รับน้ำหนักได้น้อย, อาจเปราะเมื่อโดนแดดนานๆ | งานเลี้ยงทั่วไป, งานกลางแจ้ง, ที่นั่งจำนวนมากที่เน้นงบประมาณ | ต่ำ | $ |
โพลีคาร์บอเนต (PC) | โปร่งใสสวยงาม, แข็งแรงทนทานสูง, ทนความร้อน | ราคาสูง, อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่า | งานแต่งงานหรูหรา, อีเวนต์ที่เน้นดีไซน์, สไตล์โมเดิร์น | ปานกลาง (ต้องระวังรอยขีดข่วน) | $$$ |
ไม้ (Wood) | สวยงามคลาสสิก, ให้ความรู้สึกอบอุ่น | ต้องการการดูแลรักษา, ไวต่อความชื้นและแสงแดด | ร้านอาหาร, งานเลี้ยงที่ต้องการบรรยากาศอบอุ่น, โรงแรม | สูง | $$-$$$ |
สำหรับสถานที่ที่มีพื้นที่จัดเก็บจำกัด ความสามารถในการวางซ้อนของเก้าอี้เป็นปัจจัยสำคัญมาก เก้าอี้ที่ออกแบบมาให้พับหรือวางซ้อนกันได้จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก บางรุ่นสามารถระบุจำนวนที่วางซ้อนได้ชัดเจน เช่น ซ้อนเก็บได้ 6-10 ตัว ต่อแถว
เก้าอี้ที่สามารถซ้อนกันได้ 10 ตัว จะใช้พื้นที่เพียงครึ่งหนึ่งของเก้าอี้ที่ซ้อนได้เพียง 5 ตัว ดังนั้น เก้าอี้ที่วางซ้อนได้เยอะจะลดตุ้นทุนและพื้นที่การจัดเก็บ จึงควรนำเรื่องนี้ไปถามผู้จำหน่าย โรงงาน ด้วย เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ
เพื่อทำให้เก้าอี้ดูดีได้นานที่สุด และลดต้นทุนด้านแรงงาน วัสดุอย่างหนังเทียม (PVC) หรือผ้าที่ผ่านการเคลือบพิเศษจะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า หรือพลาสติกแบบ PP คุณภาพนี้ ก็ทำความสะอาดง่าย แค่ไม่โดนแดดนานๆ บ่อยๆ ก็เก็บได้นานหลายปี แต่ทั้งหมดนี้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้นโดยตรง
นอกเหนือจากการทำความสะอาดแล้ว บริการหลังการขายถือเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษามูลค่าระยะยาว ในการใช้งานจริงย่อมมีโอกาสที่เก้าอี้จะชำรุดเสียหาย การที่ซัพพลายเออร์สามารถจัดหาอะไหล่สำรองได้ (เช่น จุกยางรองขา, สกรู, หรือเบาะนั่งสำรอง) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แต่ถ้าซัพพลายเออร์ที่ไม่สามารถจัดหาอะไหล่ได้จะเป็นการบังคับทางอ้อม ให้ผู้ซื้อต้องทิ้งเก้าอี้ทั้งตัวเพียงเพราะชิ้นส่วนเล็กๆ ชิ้นเดียวเสียหาย และอาจต้องซื้อใหม่อีกด้วย
สำหรับการซื้อมาเป็นเจ้าของเลยจะมีข้อดี คือ ประหยัดต้นทุนในระยะยาวหากมีการใช้งานบ่อยครั้ง, ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน, สามารถควบคุมคุณภาพและจำนวนสินค้าคงคลังได้อย่างเต็มที่, พร้อมใช้งานได้ทันทีตามต้องการ แต่จะต้องใช้เงินลงทุนสูง มีต้นทุนในการจัดเก็บ แต่สำหรับ การซื้อจาก โรงงานผลิตเก้าอี้จัดเลี้ยง ก็อาจเป็นตัวหนึ่งที่ทำให้ราคาถูกลงได้
แต่ถ้าจบที่ เช่าเก้าอี้ ก็จะมีตัวเลือกในการเยอะกว่า เช่น ชิวารี, โมเดิร์น, พลาสติก แบบไม่ต้องลงทุนสูงมาก ไม่มีภาระในการจัดเก็บ การบำรุงรักษา ซึ่งโดยมากแล้ว บริษัทเช่าเก้าอี้ มักจะมาเป็นแพ็กเกจเช่น เต๊นท์ โต๊ะ ฯลฯ ด้วยเลย แต่ หากมองเรื่องเงิน ต้นทุนต่อครั้งสูงกว่า, ต้องขึ้นอยู่กับคิวเช่า, มีความเสี่ยงเรื่องเก้าอี้ไม่เพียงพอหรือปัญหาการจัดส่งได้
อย่างไรก็ดี การตัดสินใจซื้อหรือเช่า อาจเป็นแบบ Hybrid ได้ ตัวอย่างเช่น โรงแรมหรือศูนย์ประชุมขนาดใหญ่อาจเลือกลงทุน ซื้อ เก้าอี้จัดเลี้ยงมาตรฐานที่มีแข็งแรงสูงจำนวนมากไว้สำหรับงานประชุมทั่วไป และเมื่อมีงานที่ต้องการความหรูหราเป็นพิเศษ เช่น งานแต่งงาน ก็สามารถ เช่า เก้าอี้พรีเมียม โดยไม่ต้องซื้อในราคาแพงที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน
การสั่งซื้อโดยตรงจากโรงงาน เป็นช่องทางที่ให้ราคาต่อหน่วยต่ำที่สุด เนื่องจากไม่ต้องผ่านคนกลาง โรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ และมักมีบริการรับผลิตตามแบบที่ลูกค้าต้องการ อย่างไรก็ตาม ช่องทางนี้มักกำหนดจำนวนสั่งซื้อขั้นต่ำ (Minimum Order Quantity - MOQ) ที่สูง และผู้ซื้ออาจต้องรับผิดชอบด้านการขนส่งเอง
แต่ถ้าเลือกซื้อจากตัวแทน ร้านค้าส่งมักมีสต็อกสินค้าพร้อมส่ง ทำให้จัดส่งได้รวดเร็วกว่าและรับคำสั่งซื้อในปริมาณที่น้อยกว่าโรงงานได้ พวกเขามักเป็นตัวแทนจำหน่ายหลายยี่ห้อ ทำให้มีตัวเลือกที่เยอะกว่า แม้ราคาจะสูงกว่าการซื้อตรงจากโรงงาน แต่ก็มีความยืดหยุ่นมากกว่า
ร้านค้าปลีกออนไลน์ เช่น Officemate, Lazada, Shopee, ไทวัสดุ, Makro ที่มีช่องทางออนไลน์ ก็สะดวกเช่นกัน แต่หากสั่งซื้อจำนวนมากอาจไม่มีสินค้าเพียงพอสำหรับจำหน่าย และอาจมีราคาสูงกว่า การซื้อผ่านโรงงาน (ราคา Retail vs Wholesale)
พบกับเก้าอี้พลาสติกคุณภาพสูงจาก ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ มีให้เลือกทั้ง ราคาโรงงาน, ราคาขายส่ง และ ราคาขายปลีก ครอบคลุมทุกช่วงราคา เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ร้านอาหาร ร้านค้า และธุรกิจจัดเลี้ยง
รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม