ตะกร้าใส่เสื้อผ้า ต้องมีกี่ใบในบ้าน? - 5 เทคนิคแนะนำ สำหรับสุขอนามัยที่ดี

ตะกร้าใส่เสื้อผ้า ต้องมีกี่ใบในบ้าน? - 5 เทคนิคแนะนำ สำหรับสุขอนามัยที่ดี

การเลือกใช้ ตะกร้าใส่เสื้อผ้าในบ้าน ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความเป็นระเบียบเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขอนามัยในชีวิตประจำวันโดยตรง การแยกผ้าเค็ม ผ้าออกกำลังกาย หรือผ้าที่ใช้แล้วให้อยู่ในตะกร้าที่เหมาะสม ช่วยลดการสะสมของกลิ่นอับ เชื้อรา และแบคทีเรียที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของคนในครอบครัว และทำให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ปะปนระหว่างผ้าที่สกปรกมากกับผ้าที่ใส่เพียงครั้งเดียว

ประการแรก ตะกร้าใส่เสื้อผ้า ที่ดี ควรมีลักษณะยังไง?

การเลือกตะกร้าใส่ผ้าควรคำนึงถึงวัสดุและการใช้งานจริงเป็นหลัก ตะกร้าที่ดีควรมีรูหรือช่องระบายอากาศเพื่อป้องกันกลิ่นอับจากเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว โดยเฉพาะในวันที่อากาศชื้น การมีตะกร้าที่ทำความสะอาดง่ายและมีน้ำหนักเบาจะช่วยให้ยกไปซักได้ง่าย ตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าใช้แล้ว (ผ้าเค็ม) ควรแยกออกจากเสื้อผ้าสะอาดที่ยังไม่ได้พับ และควรมีตะกร้าแยกสำหรับเสื้อผ้าที่ต้องซักเป็นพิเศษ เช่น ชุดกีฬาที่มีเหงื่อมากหรือเสื้อผ้าที่มีคราบฝังแน่น เพื่อสุขอนามัยที่ดี

  • มีรูหรือช่องระบายอากาศ: ตะกร้าควรมีช่องว่างหรือรูเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ช่วยระบายความชื้นและกลิ่นอับจากเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ผ้าเค็ม" (เสื้อผ้าที่เปียกเหงื่อ)
  • ทำความสะอาดง่าย: ควรเลือกตะกร้าที่ผลิตจากพลาสติก PP หรือ PE ที่ทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บฝุ่นและคราบสกปรก
  • มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง: เพื่อให้ยกหรือเคลื่อนย้ายได้สะดวกเมื่อต้องนำเสื้อผ้าไปซัก

แยกประเภทตะกร้า ตามความสะอาดของเสื้อผ้า

การแยกตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าใช้แล้วตามประเภทถือเป็นสิ่งจำเป็นในการซักผ้าอย่างถูกวิธี โดยขั้นพื้นฐานแล้วควรแยกเสื้อผ้าออกเป็นอย่างน้อย 3 ประเภท คือ ผ้าสีขาว เพื่อป้องกันไม่ให้หมองหรือสีตกใส่, ผ้าสีเข้ม เพื่อป้องกันสีซีด และ ชุดชั้นใน เช่น กางเกงใน เสื้อชั้นใน และถุงเท้า ควรซักแยกจากเสื้อผ้าปกติเพื่อให้มีความสะอาดสูงสุด นอกจากนี้ หากครอบครัวมีสมาชิกหลายคน การมีตะกร้าแยกสำหรับแต่ละคนจะช่วยให้การจัดการเสื้อผ้าเป็นระเบียบและง่ายต่อการพับเก็บ

ควรวางตะกร้าไว้ตรงไหนบ้าง?

  • ตะกร้าใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว (ผ้าเค็ม): ตะกร้านี้ควรวางไว้ในห้องน้ำหรือบริเวณที่เปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว โดยเฉพาะชุดกีฬาหรือเสื้อผ้าที่เปื้อนเหงื่อถูกจัดเก็บทันที
  • ตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าสะอาดที่ยังไม่ได้พับ: ตะกร้านี้ควรวางไว้ใกล้กับบริเวณที่ซักผ้าหรืออบผ้าเสร็จแล้ว เพื่อให้คุณสามารถนำเสื้อผ้าที่แห้งแล้วมาพักไว้ก่อนพับเก็บได้
  • ตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าที่ต้องนำไปซัก: หากมีเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบหนักหรือต้องซักแยกเป็นพิเศษ เช่น เสื้อผ้าของเด็กเล็กหรือคนป่วย คุณอาจต้องมีตะกร้าแยกสำหรับเสื้อผ้าเหล่านี้โดยเฉพาะ

ตะกร้าควรมีกี่ใบในบ้าน?

การแยกประเภทเสื้อผ้าก่อนซักเป็นสิ่งที่จำเป็นมากครับ เพราะช่วยป้องกันสีตกใส่กันและทำให้การซักมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรแยกตะกร้าอย่างน้อย 3-4 ใบ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ

  • ตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าสีขาว: เพื่อให้เสื้อผ้าสีขาวยังคงความขาวสว่าง ไม่หมองง่าย
  • ตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าสีเข้ม: เพื่อป้องกันสีซีดหรือสีตกใส่เสื้อผ้าสีอ่อน
  • ตะกร้าสำหรับกางเกงชั้นใน, เสื้อชั้นใน และถุงเท้า: เสื้อผ้าพวกนี้ควรซักแยกต่างหากจากเสื้อผ้าปกติโดยเฉพาะกางเกงชั้นในและถุงเท้าที่ไม่ควรซักปนกัน
  • ตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าของแต่ละคนในบ้าน (ถ้าเป็นไปได้): หากมีสมาชิกในครอบครัวหลายคน การมีตะกร้าแยกสำหรับแต่ละคนจะช่วยให้การจัดการเสื้อผ้าสะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น

ตะกร้าสำหรับใส่เสื้อผ้าเด็กอ่อน

การเลือกตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าเด็กอ่อนต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรผลิตจากวัสดุอย่าง BPA-Free เพื่อป้องกันสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งควรมีฝาปิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าไปในตะกร้า แต่ฝาปิดก็ควรมีรูระบายอากาศเล็กๆ เพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้น และที่สำคัญ ตะกร้าไม่ควรใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้คุณซักผ้าได้ไม่ทัน ควรเลือกขนาดที่พอดีกับการซักในแต่ละรอบ เพื่อให้ผ้าไม่หมักหมม ซึ่งจะไม่เหมือน ตะกร้าพลาสติกใบใหญ่ ที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่แล้ว

ควรแยกตะกร้าผ้าใช้แล้ว กับ ผ้าสะอาด

รู้หรือไม่ว่า เคยมีการศึกษาโดยนักจุลชีววิทยาและองค์กรด้านสุขอนามัยที่พบว่า เชื้อโรคจากเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว เช่น แบคทีเรีย Staphylococcus aureus และ E. coli ซึ่งปนเปื้อนมาจากผิวหนังและเหงื่อ จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและอับ โดยเฉพาะเมื่อเสื้อผ้าเปียกเหงื่อหรือมีความชื้นสะสมอยู่ และเมื่อปล่อยทิ้งไว้ในตะกร้าเป็นเวลานาน เชื้อโรคเหล่านี้ก็จะสามารถแพร่กระจายไปเกาะติดอยู่บนผิวของตะกร้าได้

ไม่แนะนำให้ใช้ตะกร้าใส่เสื้อผ้าที่อบแห้งแล้วร่วมกับตะกร้าใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว (ผ้าเค็ม) เพราะผ้าที่ใช้แล้วจะมีทั้งเหงื่อ, แบคทีเรีย, และความชื้นสะสมอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นอับและสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ หากนำเสื้อผ้าที่สะอาดและแห้งแล้วไปใส่รวมกัน จะทำให้แบคทีเรียและกลิ่นจากผ้าที่ใช้แล้วปนเปื้อนไปที่เสื้อผ้าสะอาดได้ ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นได้

ดังนั้น ควรมีตะกร้าแยกกันอย่างน้อยสองใบเสมอ ตะกร้าหนึ่งใบสำหรับใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว และ อีกหนึ่งใบสำหรับใส่เสื้อผ้าที่อบแห้งหรือซักเสร็จแล้ว ครับ นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดตะกร้าใส่ผ้าใช้แล้วอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้น

อ้างอิง coohom.com, webmd.com

แยกตะกร้าตามสี  ไอเดียใช้งานได้จริง ควรทำ

การเลือกใช้ตะกร้าใส่เสื้อผ้าอย่างถูกสุขอนามัย

การใช้ตะกร้าแยกตามสีช่วยให้จัดการเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น ป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค ลดความเสี่ยงผ้าสีตก และยังสื่อถึงความเป็นระเบียบภายในบ้าน ซึ่งเหมือนกันกับ ถังขยะแยกประเภท 4 สี ที่ใช้ในการแยกและจัดประเภทนั่นเอง

สีของตะกร้า การใช้งาน เหตุผล
สีขาว (White) ใส่เสื้อผ้าสีขาวและผ้าสีอ่อน สื่อถึงความสะอาดและบริสุทธิ์ แยกออกจากผ้าสีอื่น ป้องกันการปนเปื้อน
สีดำ/เทาเข้ม (Black/Dark Grey) ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม เช่น ยีนส์ สีดำ หรือสีน้ำเงินเข้ม ช่วยเตือนว่าผ้านี้อาจสีตก ไม่ควรซักรวมกับผ้าสีอ่อน
สีสดใส (เหลือง, เขียว, ส้ม) ใส่เสื้อผ้าสีสดใสที่ไม่ใช่สีขาวหรือสีเข้ม ช่วยให้จำง่าย และแยกออกจากผ้าขาวและผ้าเข้มได้ทันที
สีอ่อน (ชมพู, ฟ้า) ใช้ใส่ผ้าที่ซักหรืออบแห้งเสร็จแล้ว แยกผ้าสะอาดออกจากผ้าสกปรกชัดเจน ลดการปนเปื้อน

ตะกร้าอเนกประสงค์รูปไข่แบบสูง รุ่น M-54

ผลิตจากพลาสติก PP เกรด A แข็งแรงทนทาน ดีไซน์โปร่งทรงรีสูง ระบายอากาศได้ดี จุของได้เยอะ เหมาะสำหรับใส่ผ้า ของใช้ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ

ขนาด: กว้าง 30 x ยาว 41 x สูง 39 ซม. *หมายเหตุ: สีสินค้าอาจต่างจากภาพเล็กน้อยตามแสงถ่าย / แจ้งสินค้าชำรุดภายใน 7 วัน

เลือกซื้อตะกร้าทั้งหมดที่ Srithai Online ที่นี่

อ่านต่อเรื่องน่ารู้ในศรีไทย ซุปเปอร์แวร์

รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

 

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร