ลังพลาสติกซ้อนได้ คืออะไร (Stack/Nest) ต่างจากธรรมดายังไง

ลังพลาสติกซ้อนได้ คืออะไร (Stack/Nest) ต่างจากธรรมดายังไง

เป็นลังพลาสติกธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา สำหรับลังพลาสติกซ้อนได้ หรือเรียกว่า Stackable / Nestable คือลังที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถใช้งานได้ 2 รูปแบบหลักในตัวเดียว ซึ่งแตกต่างจากลังพลาสติกทั่วไป คือสามารถ ซ้อนทับกันได้ตอนใช้งาน และ สวมเข้าหากันได้ตอนเก็บ ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ Design ที่อยู่ ตรงปากลัง วันนี้เราจะมาดูข้อแตกต่างระหว่างลังพลาสติกธรรมดา กับลังพลาสติกซ้อนได้กัน

เปรียบเทียบ ลังพลาสติกธรรมดา และ แบบ Stack / Nest

สำหรับลังแบบ Stack/Nest นั้น มักจะมีผนังทรงบานออกเล็กน้อย และ บ่ารับน้ำหนัก 2 ระดับ ที่ตรงปากของลัง ซึ่งเวลาใช้งานจะสามารถวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ ได้ และเมื่อขนส่งสินค้าเสร็จ จะสามารถหมุนลัง ราวๆ 180 องศา และสวมซ้อนเข้าด้านในได้ ไม่เกะกะ ซึ่งต่างจากลังพลาสติกแบบธรรมดา ที่สวมไม่ได้ ซึ่งทำให้กินพื้นที่จัดเก็บนั่นเอง

คุณสมบัติ ลังซ้อนได้ (Stack/Nest) ลังธรรมดา (Stack only)
การใช้งาน วางใช้งานซ้อนชั้นได้ และหมุนเพื่อสวมซ้อนตอนขนกลับ/เก็บว่าง วางซ้อนชั้นได้อย่างเดียว (สวมกันไม่ได้)
การประหยัดพื้นที่ขากลับ ประหยัดพื้นที่ ~50–70% เมื่อสวมซ้อน กินพื้นที่เท่าเดิมเพราะซ้อนสูงอย่างเดียว
ความแข็งแรงเชิงโครงสร้าง แข็งแรงเพียงพอสำหรับใช้งานทั่วไป; ต้องดูค่า stacking load ตามสเปก มักแข็งแรงกว่าในงานวางทับสูงระยะยาว (ผนังตรง/หนา)
เหมาะกับงาน อีคอมเมิร์ซ/ตลาดสด/คลังที่มี “ไป–กลับ” ต้องการลดค่าส่งและพื้นที่เก็บ เก็บคงที่บนชั้นวาง/พาเลทนาน ๆ หรืองานรับน้ำหนักมาก
ต้นทุน มักสูงกว่าเล็กน้อย แต่คืนทุนจากค่าขนส่ง/พื้นที่ที่ลดลง ราคาต่อใบถูกกว่า รุ่นพื้นฐานมีให้เลือกมาก
จุดสังเกตเวลาเลือก ผนังเทเปอร์, บ่ารับ 2 ระดับ, หมุนแล้วสวมได้, ระบุ % การยุบซ้อน, ขนาดมาตรฐาน 60×40 เป็นต้น ผนังค่อนข้างตรง, ไม่มีบ่าสำหรับสวม, โฟกัสที่ความหนาและคานเสริมรับแรง

  ลังพวกนี้มักเห็นใช้ในการขนส่งสินค้าไปยังร้านสะดวกซื้อโดยแยกเป็นสีๆ ซึ่งเป็น ลังอเนกประสงค์ ที่เอาไว้ใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้ โดยแบ่งเป็นสีต่างๆ เช่น สีเขียวมักใช้กับการขนส่งผลไม้ และสีอื่นๆ อาจเป็นอาหาร หรือ อุตสาหกรรมหนักก็ได้ สำหรับข้อดีของลังแบบ Stack / Nest ที่เจ้าของธุรกิจถูกใจมากๆเลยก็คือ สามารถลดเที่ยวรถว่าง และค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บได้ เพราะสามารถจัดระเบียบง่าน และมีหลายรุ่นหลายสีให้เลือก รวมถึงสามารถเอาไปวางบน Shelf อุตสาหกรรมได้ และ พาเลทขนาดมาตรฐานได้เช่นกัน

ยกตัวอย่างความคุ้มค่าของ ลังพลาสติกแบบ Stack & Nest

สมมติใช้ลัง 200 ใบ ส่งของขาไป “ซ้อนขึ้น” เต็มรถ 1 เที่ยว ขากลับถ้าลังธรรมดาใช้พื้นที่เท่าเดิม = ต้องวิ่งรถ 1 เที่ยว แต่ถ้าเป็น Stack/Nest  สามารถประหยัดพื้นที่ขนส่งได้เช่น 60% จะเหลือปริมาตรเพียง 40% ของเดิม ทำให้ ลดเที่ยวขากลับเหลือ 0.4 เที่ยว (รวมกับงานจริงคือรวมกับรอบอื่นได้) ต้นทุนขนส่งเฉลี่ยต่อเดือนจึงลดลงตามสัดส่วนพื้นที่ที่ประหยัดได้

 

ในขณะที่ลังพลาสติกธรรมดา เมื่อขนของไป เต็มรถ 1 เที่ยวเท่ากัน ขากลับก็ต้องใช้พื้นที่เท่าเดิม ซึ่งจะทำให้เสียพื้นที่ในการขนกลับ ซึ่งอาจมีของหรือสินค้ากลับมาด้วย ทำให้เป็นการตีรถเปล่า โดยมีลังอยู่เต็มรถ นั่นเอง

วิธีการเช็ค Spec สินค้าก่อนซื้อ 

สเปกที่ต้องเช็ก ความหมาย / ใช้ทำอะไร ค่าที่ควรถามผู้ขาย / ตัวอย่าง หมายเหตุการเลือก
% การยุบซ้อน (Nesting Efficiency) บอกว่าเมื่อหมุนลังแล้วสวมซ้อนกันได้ “ประหยัดปริมาตร” เท่าไร ระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 50–70% ยิ่งเปอร์เซ็นต์สูง ยิ่งลดพื้นที่ขากลับ/พื้นที่เก็บได้มาก
Stacking Load น้ำหนักที่ลังรับได้เมื่อวางซ้อนเป็นชั้น ๆ ระบุเป็นกก./ชั้น หรือกก./สแต็ก สำคัญกับงานวางทับค้างนาน เลือกค่าที่เผื่อความปลอดภัย
วัสดุ ชนิดพลาสติกและคุณสมบัติ PP / HDPE, รุ่น Food-grade หรือรีไซเคิล งานอาหารสดเลือก Food-grade; งานกลางแจ้งดูความทน UV
ก้นลัง / คานเสริม ความหนาและโครงสร้างก้นลังเพื่อกระจายน้ำหนัก มีคานเสริม, ก้นทึบ/โปร่ง, ความหนา (มม.) งานหนัก/เครื่องจักรยก เลือกก้นหนาและมีคานเสริม
หูจับ / ป้ายสอด ช่วยหยิบจับและระบุรายการสินค้า หูจับเสริมแรง, ช่องสอดการ์ด/บาร์โค้ด เพิ่มความเร็วหยิบจ่าย ลดผิดพลาดในคลัง
ฝาปิด ป้องกันฝุ่น สิ่งปนเปื้อน หรือการสูญหาย มีฝา/ไม่มีฝา, ฝาแบบสวม/บานพับ สินค้าอาหาร/มูลค่าสูงควรมีฝาและระบบซีลที่แน่น

 

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร