เก้าอี้พลาสติก ใช้–แตก–ซื้อใหม่ ประหยัดกว่าไม้ เหล็กจริงไหม

เก้าอี้พลาสติก ใช้–แตก–ซื้อใหม่ ประหยัดกว่าไม้ เหล็กจริงไหม

ถ้าเดินสำรวจร้านอาหารริมทาง คาเฟ่เปิดโล่ง หรือร้านตามตลาดในประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่เห็นแทบทุกที่คือ เก้าอี้พลาสติก โดยเฉพาะรุ่นราคาประหยัดที่ซื้อมาใช้ง่าย พังแล้วเปลี่ยนใหม่ได้ทันที จนเกิดแนวคิดที่ผู้ประกอบการจำนวนมากคุ้นเคยกันดีว่า “แตกก็ซื้อใหม่ ยังไงก็ถูกกว่าไม้หรือเหล็ก”

แต่เมื่อมองลึกลงไปในมุมของต้นทุนธุรกิจจริง ๆ คำถามนี้ไม่ได้ตอบง่ายแค่ราคาหน้าร้าน เพราะการเลือกเก้าอี้คือการตัดสินใจด้าน การบริหารสินทรัพย์ ที่ส่งผลต่อกระแสเงินสด ความเสี่ยง ภาพลักษณ์ร้าน และแม้แต่ยอดขายในระยะยาว เราจะพาไปถอดโมเดล “ซื้อ–ใช้–แตก–ซื้อใหม่” ของเก้าอี้พลาสติก เทียบกับการลงทุนในเก้าอี้ไม้และเหล็กแบบจริงจัง ว่าประหยัดจริงหรือแค่ดูเหมือนประหยัด


ต้นทุนเริ่มต้น - จุดที่ทำให้หลายร้านเลือกพลาสติก

เหตุผลหลักที่เก้าอี้พลาสติกได้รับความนิยมคือ “ราคาซื้อครั้งแรก” ที่ต่ำมาก ในตลาดไทย เก้าอี้พลาสติกพื้นฐานมีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อย ขณะที่เก้าอี้ไม้หรือเหล็กสำหรับร้านอาหารดูเหมือนจะเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ตั้งแต่วันแรก
ประเภทวัสดุ ช่วงราคาโดยประมาณ (บาท/ตัว) เหตุผลที่ร้านเลือกใช้
พลาสติก PP เกรดพื้นฐาน 129 – 179 ถูกที่สุด ซื้อได้ครั้งละเยอะ
พลาสติกดีไซน์ / เกรดสูง 800 – 2,200 ล้างง่าย กันน้ำ ดูทันสมัย
เหล็กโครงสร้าง 400 – 1,500 แข็งแรง ใช้งานหนักได้
ไม้ทั่วไป 500 – 1,200 บรรยากาศอบอุ่น เป็นมิตร
ไม้เนื้อแข็งพรีเมียม 3,000 – 5,000 ยกระดับภาพลักษณ์ร้าน
จากตารางนี้จะเห็นชัดว่า เก้าอี้พลาสติกทำให้ร้านเริ่มต้นง่าย โดยเฉพาะร้านเปิดใหม่หรือร้านที่ต้องการควบคุมเงินสดในช่วงแรก แต่ราคาซื้อเป็นเพียง ส่วนหนึ่งของต้นทุนทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งยังไม่รวม ค่าซ่อมบำรุง การจัดเก็บ และค่าขนส่ง

อายุการใช้งานจริงในสภาพอากาศประเทศไทย

ประเทศไทยมีแดดแรง ความชื้นสูง และฝนตกหนัก ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเก้าอี้พลาสติกที่ผลิตจากโพลีโพรพิลีน (PP) ซึ่งไวต่อรังสียูวีมากกว่าวัสดุอื่น
วัสดุ อายุใช้งานในที่ร่ม อายุใช้งานกลางแจ้ง ลักษณะความเสียหาย
พลาสติก PP 3 – 12 ปี 1 – 5 ปี กรอบ สีซีด แตกหัก (หากใช้ผิดประเภท)
เหล็กพ่นสี 15 – 20+ ปี 5 – 10 ปี สนิม สีถลอก
ไม้เนื้อแข็ง 10 – 15 ปี 3 – 8 ปี รอยขีดข่วน ข้อต่อหลวม
ซึ่งถ้าหากเป็นเก้าอี้พลาสติกมาตรฐาน อาจมีอายุในการใช้งาน ได้นานกว่า ไม่กรอบแตกหักง่ายๆ ทำให้ต้นทุนร้านในเบื้องต้นต่ำ และ สามารถใช้ได้ยาวนาน โดยไม่ต้องมีการ ซ่อมบำรุง เลยทีเดียว ในขณะเดียวกันหากเป็นเก้าอี้ไม้ หรือ เหล็ก แม้จะมีการซ่อมบำรุงเหมือนกัน แต่อาจมีต้นทุนการจัดเก็บที่ต้องดีกว่า เก้าอี้พลาสติก

ประหยัดจริง หากซื้อเก้าอี้พลาสติกที่ได้มาตรฐาน

เมื่อพิจารณาในภาพรวม โมเดล “ซื้อ–ใช้–แตก–ซื้อใหม่” ไม่ได้ประหยัดกว่าในระยะยาว หากมีการซื้อจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากร้านมีแผนเปิดยาว แต่เก้าอี้ไม้หรือเหล็กให้ผลตอบแทนดีกว่า ทั้งในแง่ต้นทุนรวม ภาพลักษณ์ และยอดขาย เก้าอี้พลาสติกยังมีบทบาทที่เหมาะสม เช่น งานอีเวนต์ ร้านหมุนเวียนเร็ว หรือพื้นที่กลางแจ้งชั่วคราว แต่สำหรับร้านที่ต้องการความยั่งยืน การมองเก้าอี้เป็น “การลงทุน” มากกว่า “ของแตกแล้วทิ้ง” คือแนวคิดที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว

เก้าอี้พลาสติก ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ คุณภาพดี ใช้ได้ระยะยาว ประหยัดต้นทุน

แม้การเลือกเก้าอี้มือหนึ่งหรือมือสองจะไม่ได้ยุ่งยาก แต่การเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและมีแบรนด์อย่าง Superware ทำให้มั่นใจได้ในความทนทาน สวยงาม ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมบริการ สั่งซื้อออนไลน์ ส่งฟรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

เก้าอี้ร้านอาหาร ยอดนิยม

รุ่น CH-50 พลาสติก PP เกรด A แข็งแรงทนแดดฝน ขนาด 48x50x80 ซม. วางซ้อนได้ เหมาะกับร้านอาหารและงานเลี้ยง

สั่งซื้อเก้าอี้รุ่น CH-50

เก้าอี้ร้านอาหาร แบบหรูหรา

รุ่น CH-67 (GIAVA) สีน้ำตาล มีเท้าแขน นั่งสบาย พลาสติกเกรด A ขนาด 46x58x90 ซม. ใช้ได้ทั้งในบ้านและร้านอาหาร

สั่งซื้อเก้าอี้รุ่น CH-67

เก้าอี้ Stool ไม่มีพนักพิง

รุ่น CH-68/A ขนาด 40.5x36x47 ซม. พลาสติกเกรด A วางซ้อนได้ มีให้เลือก 3 สี: ขาว, น้ำตาล, เทา

สั่งซื้อเก้าอี้รุ่น CH-68/A

 

อ่านต่อเรื่องน่ารู้ในศรีไทย ซุปเปอร์แวร์

รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

 

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร