
ถ้าดูผิวเผิน เก้าอี้พลาสติกอาจดูเป็นแค่ของใช้ราคาไม่แพง ตั้งเรียงอยู่ตามร้านข้าวแกง หน้าทำเป็นหน้าที่ เก้าอี้งานวัด หรือในโกดังให้เช่าของจัดเลี้ยง แต่ถ้าลองมองลึกลงไปในตัวเลขการขาย จะพบว่าหมวดเฟอร์นิเจอร์ที่มีการซื้อซ้ำบ่อยที่สุดในตลาดไทย ไม่ใช่โซฟาหรู โต๊ะไม้ตัวใหญ่ หรือชุดครัวแพง ๆ แต่กลับเป็น “เก้าอี้พลาสติก” ธรรมดา ๆ ที่อยู่รอบตัวทุกวันนี่แหละ
เบื้องหลังการซื้อซ้ำจำนวนมากๆนี้ อาจไม่ได้มาจากชอบในยี่ห้อนั้นๆ หรือไม่ได้มาจากความอยากอัปเกรดบ้านให้สวยขึ้นเป็นหลัก แต่มาจากความจำเป็นต้อง “ซื้อมาเพื่อทดแทนของเก่า” เป็นวัฏจักรซื้อ–ใช้–แตก–ซื้อใหม่ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ทั้งจากสภาพเศรษฐกิจที่บีบให้ต้องเลือกของราคาไม่สูง การใช้งานหนักในธุรกิจบริการ และภูมิอากาศร้อนจัดของไทยที่เร่งให้พลาสติกเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าประเทศเขตหนาวหลายเท่า
บทความนี้จึงชวนมาดูภาพรวมทั้งตลาด มุมเศรษฐศาสตร์ การใช้งานจริง และเรื่องวัสดุ ว่าทำไม “เก้าอี้พลาสติก” ถึงกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คนไทยและธุรกิจในไทยซื้อซ้ำมากที่สุด รวมถึงโอกาสที่ผู้ผลิตในประเทศจะยืนระยะในตลาดนี้ได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดเฟอร์นิเจอร์ไทยต้องเจอแรงกดดันรอบด้าน ทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง กำลังซื้อของคนทั่วไปที่ยังไม่กลับมาเต็มร้อย รวมถึงการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้หลายครอบครัวชะลอการซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เช่น ตู้ เตียง หรือโซฟาชุดใหญ่ การตัดสินใจซื้อของตกแต่งบ้านจึงขยับมาอยู่บนฐาน “ราคา” เป็นตัวตั้งแทบทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลางและล่างที่ต้องคุมงบอย่างจริงจัง

ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม E-commerce รายใหญ่ในไทยระบุว่า ในหมวด Home & Living หมวด “โซฟาและเก้าอี้” ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Top 5 สินค้าที่ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำบ่อยที่สุด แปลว่าผู้บริโภคมีการทำธุรกรรมในหมวดที่เกี่ยวกับ “ที่นั่ง” สูงกว่าหมวดตกแต่งบ้านอีกหลายประเภท
(อ้างอิง มติชนออนไลน์)
ถ้าแยกให้ชัด โซฟามักเป็นการซื้อแบบรอบยาว ๆ ซื้อทีหนึ่งใช้กันหลายปี ส่วนเก้าอี้ โดยเฉพาะเก้าอี้พลาสติก กลับเป็นสินค้าที่ถูกซื้อในปริมาณมากและมีรอบการซื้อบ่อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
| ลำดับ | หมวดสินค้า Home & Living | ลักษณะการซื้อซ้ำโดยรวม |
|---|---|---|
| 1 | โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ | ทยอยซื้ออุปกรณ์เสริมในหมวดเดียวกันเพิ่ม |
| 2 | โซฟาและเก้าอี้ | ซื้อเพิ่ม/ซื้อทดแทน โดยเก้าอี้พลาสติกมีปริมาณสูงสุด |
| 3 | ชุดเครื่องนอน | ซื้อผ้าปู หมอน ผ้านวม เพิ่มเติม |
| 4 | ตู้และชั้นวางของ | ทยอยซื้อให้ครบฟังก์ชันที่ต้องการ |
| 5 | เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก | ซื้อซ้ำในหมวดเดียวกันเมื่อเครื่องเดิมเสื่อม/ต้องการเพิ่ม |
ตารางนี้ช่วยย้ำภาพว่า “โซฟาและเก้าอี้” เป็นหมวดที่มีการเคลื่อนไหวสูงมาก และเมื่อเจาะลึกลงไปในสินค้าแต่ละประเภท เก้าอี้พลาสติกคือพระเอกตัวจริงในแง่ยอดขายเชิงปริมาณ เพราะเข้าถึงง่าย ราคาไม่แรง และใช้กันทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่ในบ้าน
จุดแข็งใหญ่ของเก้าอี้พลาสติกคือ “ราคาต่ำมาก” เมื่อเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นในบ้าน รุ่นพื้นฐานบางแบบราคาเริ่มต้นเพียงหลักหน่วยถึงหลักสิบบาทต่อหนึ่งตัว ส่วนรุ่นมาตรฐานสำหรับใช้ในบ้านหรือร้านอาหารก็อยู่ในช่วงหลักสิบปลายๆ ถึงร้อยต้นๆ เท่านั้น ทำให้การตัดสินใจซื้อใหม่แทบไม่มี และไม่ต้องคิดมากเท่าไหร่
หลายธุรกิจมองเก้าอี้พลาสติกเป็นทรัพย์สินที่ใช้แล้วทิ้งได้ (ในเชิงพฤติกรรม) มากกว่าจะเป็นของที่ต้องดูแลซ่อมแซม เพราะเมื่อเทียบค่าแรง ขนส่ง และเวลาที่เสียในการซ่อมแล้ว การซื้อใหม่มักง่ายกว่าและคุ้มค่ากว่าในภาพรวม ผลก็คือ เก้าอี้พลาสติกถูกซื้อใหม่เพื่อทดแทนของที่ชำรุดอยู่ตลอดเวลา
| ช่วงราคาโดยประมาณ (บาท/ตัว) | ระดับการเข้าถึง | พฤติกรรมการซื้อซ้ำโดยทั่วไป |
|---|---|---|
| 3 – 50 | เข้าถึงง่ายที่สุด | ซื้อทีละจำนวนมาก เพื่อทดแทนของที่แตกหัก ใช้งานแล้วทิ้ง |
| 51 – 150 | งบมาตรฐานครัวเรือน/ธุรกิจเล็ก | ซื้อทั้งเพื่อขยายที่นั่ง และทดแทนของเก่าที่เริ่มเสื่อม |
| 151 ขึ้นไป | เกรดพรีเมียม/เกรด A | เน้นความทนทาน ระยะเวลาซื้อซ้ำยาวขึ้น เน้นอายุการใช้งานมากกว่าความถูก |
เมื่อเชื่อมโยงกับสภาพเศรษฐกิจที่คนส่วนใหญ่ต้องประหยัด การเลือกเก้าอี้พลาสติกจึงเหมือนเป็น “ตัวช่วยลดต้นทุน” ที่ตอบโจทย์ทั้งบ้านและธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือโซฟาผ้าราคาเพิ่มสูงตามต้นทุนวัตถุดิบ การหันมาใช้เก้าอี้พลาสติกจึงยิ่งเข้ามาแทนที่ในหลายสถานการณ์
การซื้อเก้าอี้พลาสติกจำนวนมากมักเกิดจากความต้องการใช้งานแบบเฉพาะหน้า เช่น เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ เพิ่มโต๊ะเพิ่มเก้าอี้ ขยายห้องเรียน จัดอบรม หรือเตรียมเก้าอี้สำหรับงานบุญ งานบวช งานศพ ฯลฯ เป็นการซื้อที่ต้องการ “ของพร้อมใช้ ราคาพอรับได้” มากกว่าจะเป็นการคิดเรื่องดีไซน์และอายุการใช้งาน 10–15 ปีแบบที่คิดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือโซฟาในบ้าน
กลุ่มคนเริ่มทำงาน เจ้าของกิจการเล็ก ๆ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มจัดพื้นที่ใช้สอยเอง จึงเลือกเก้าอี้พลาสติกเป็นตัวเลือกแรก เพราะไม่ต้องวางแผนงบเยอะ ซื้อได้ทันที และถ้าเก้าอี้บางส่วนพังกลางทาง ก็แค่สั่งเพิ่มเข้ามาใหม่ ทำให้สถิติการซื้อซ้ำของเก้าอี้พลาสติกสูงกว่าสินค้าเฟอร์นิเจอร์อื่นอย่างชัดเจน
ลองมองตั้งแต่ร้านอาหารริมทาง ร้านก๋วยเตี๋ยว รถเข็นข้าวมันไก่ ร้านชานมเล็กๆ ไปจนถึงโรงเรียน ศูนย์อบรม หรือห้องสัมมนา จะเห็นว่าเก้าอี้พลาสติกคือเฟอร์นิเจอร์หลักที่ใช้รองรับลูกค้าหรือผู้เข้าร่วมกิจกรรมแทบทั้งหมด จุดเด่นคือเบา เคลื่อนย้ายง่าย ซ้อนเก็บได้ ทนแดด ทนฝน และไม่ต้องกลัวน้ำหรือคราบอาหารเท่ากับเก้าอี้เบาะผ้า
อย่างไรก็ตาม การใช้งานในโลกจริงค่อนข้างโหด ทั้งการรับน้ำหนักหลายรอบต่อวัน การลาก การโยน การขยับไปมา และการตากกลางแดดกลางฝนตลอดเวลา ทำให้อัตราการเสียหายของเก้าอี้พลาสติกในภาคบริการสูงกว่าการใช้ในบ้านมาก ผู้ประกอบการจึงต้องเผื่องบ “ซื้อทดแทน” เป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
เก้าอี้พลาสติกยังถูกใช้เป็นมาตรฐานในงานชั่วคราวทุกประเภท ตั้งแต่งานวัด งานทอดกฐิน งานศพ ไปจนถึงงานเลี้ยงบริษัทและงานอีเวนต์กลางแจ้ง จุดเด่นคือสามารถซ้อนเก็บได้สูง ประหยัดพื้นที่ขนส่งและเก็บสต็อก สามารถระดมเก้าอี้หลักร้อย–หลักพันตัวไปตั้งที่หน้างานได้ในครั้งเดียว
แต่ยิ่งเคลื่อนย้ายบ่อย ใช้ในมือคนจำนวนมาก โอกาสที่เก้าอี้จะร้าว ขาแอ่น หรือแตกก็สูงขึ้นตามไปด้วย ผู้ให้บริการเช่าเก้าอี้หรือ ผู้จัดงานจัดเลี้ยง มักต้องวางแผนสั่งซื้อซ้ำแบบยกชุดเพื่อลงแทนตัวที่ชำรุด ทำให้ตลาดเก้าอี้พลาสติกมีการหมุนเวียนสต็อกระดับ “แมส” อยู่ตลอดเวลา
อีกปัจจัยหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือภูมิอากาศของไทยที่จัดอยู่ในโซนร้อน มีทั้งอุณหภูมิสูงและรังสี UV แรงเป็นพิเศษ สำหรับเก้าอี้พลาสติกทั่วไปที่ทำจาก PP หรือ HDPE ถ้าไม่ได้ผสมสารป้องกัน UV ตั้งแต่ตอนผลิต เมื่อตากแดดจัดต่อเนื่อง 1–2 ปี เนื้อพลาสติกจะเริ่มแข็ง กรอบ สีซีด และแตกหักง่ายขึ้นมาก
กระบวนการนี้เรียกว่า Photodegradation หรือการเสื่อมสภาพด้วยแสง ซึ่งทำให้โซ่โมเลกุลของพลาสติกขาดออกเป็นท่อนเล็ก ๆ คุณสมบัติด้านความแข็งแรงและความยืดหยุ่นลดลงอย่างต่อเนื่อง ในมุมผู้ใช้ เก้าอี้ที่เคยทนก็กลายเป็นเก้าอี้ที่ “หักได้ง่ายเพียงแค่นั่งผิดจังหวะ” และแน่นอนว่าเมื่อเจอเคสแบบนี้ เจ้าของกิจการส่วนใหญ่จะเลือกซื้อใหม่แทนที่ทันที

| คุณสมบัติ | เก้าอี้พลาสติกเกรด A (Virgin PP + UV) | เก้าอี้พลาสติกเกรดทั่วไป/รีไซเคิล |
|---|---|---|
| วัสดุหลัก | เม็ดพลาสติกใหม่ ผสมสารป้องกันรังสี UV | พลาสติกรีไซเคิล หรือเกรดต่ำ ไม่ผสม UV |
| ความแข็งแรง | รับน้ำหนักได้ดี ไม่เปราะง่าย | เสี่ยงแตกหักเมื่อใช้งานหนักต่อเนื่อง |
| อายุการใช้งานกลางแจ้ง | ราว 3–5 ปี หรือมากกว่า สีซีดช้ากว่า | ราว 1–2 ปี เริ่มกรอบ แตก และซีดจางเร็ว |
| เหตุผลหลักที่ซื้อซ้ำ | ขยายพื้นที่ นั่งสบายขึ้น หรือเปลี่ยนสไตล์ | ต้องซื้อทดแทนตัวที่เสื่อมสภาพหรือแตกหัก |
ตารางนี้สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าเลือกใช้เก้าอี้พลาสติกเกรดทั่วไปที่เน้นราคาถูก วงจรชีวิตของสินค้าแทบจะถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกว่าอีกไม่นานจะต้องซื้อใหม่แน่นอน นั่นคือเหตุผลที่เก้าอี้พลาสติกกลายเป็นสินค้าที่ถูกซื้อซ้ำถี่มากในภาพรวมตลาด
เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด จะเห็นชัดเจนว่าเก้าอี้พลาสติกกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คนไทยซื้อซ้ำมากที่สุดในเชิงปริมาณไม่ใช่เพราะความหรูหรา แต่เพราะมันตอบโจทย์ 3 เรื่องพร้อมกัน คือ ราคาต่ำ ใช้งานได้จริงในทุกสถานการณ์ และวงจรชีวิตที่สั้นจากการใช้งานหนักและสภาพอากาศ ทำให้ต้องมีการซื้อทดแทนอยู่ตลอดเวลา
สำหรับผู้เล่นในอุตสาหกรรม นี่ไม่ใช่แค่ตลาดของ “ของถูก” แต่เป็นสนามที่เปิดโอกาสให้แบรนด์ที่เข้าใจทั้งเศรษฐศาสตร์ วัสดุ และพฤติกรรมผู้ใช้จริง เข้ามาสร้างสินค้าเก้าอี้พลาสติกที่ทั้งคุ้มค่า ทนทาน และสอดรับกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในอนาคต ใครที่อ่านตัวเลขทะลุและออกแบบข้อเสนอได้ดี จะมีโอกาสยืนระยะในตลาดนี้ได้แบบยาว ๆ ไม่ต่างจากเก้าอี้ตัวโปรดที่ลูกค้าอยากใช้ไปนาน ๆ โดยไม่ต้องกลัวหักกลางงาน
พบกับเก้าอี้พลาสติกคุณภาพสูงจาก ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ มีให้เลือกทั้ง ราคาโรงงาน, ราคาขายส่ง และ ราคาขายปลีก ครอบคลุมทุกช่วงราคา เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ร้านอาหาร ร้านค้า และธุรกิจจัดเลี้ยง สามารถ เช็คราคาเก้าอี้งานวัดได้ จากทีมงาน Srithai Online
รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม