ชั้นวางรองเท้า สำหรับที่แคบ เลือกแบบไหนดี ประหยัดพื้นที่สุด

ชั้นวางรองเท้า สำหรับที่แคบ เลือกแบบไหนดี ประหยัดพื้นที่สุด

นับว่าเป็นปัญหาโลกแตก สำหรับคนที่ชอบซื้อรองเท้า เพราะปัญหารองเท้าเยอะเกินไป แต่พื้นที่เก็บน้อยเป็นเรื่องที่หลายบ้านต้องเจอ โดยเฉพาะคนที่อยู่คอนโด ห้องเช่า หรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัด การหาชั้นวางรองเท้าแบบที่ม่กินพื้นที่ แต่ยังเก็บรองเท้าได้ครบ จึงเป็นคำตอบสำคัญ บทความนี้จะพาไปดูวิธีเลือกชั้นวางรองเท้าที่เหมาะกับห้องแคบ พร้อมตัวเลือกที่ทั้งสวย ใช้งานง่าย และคุ้มค่า

ประเภท ชั้นวางรองเท้า แบบประหยัดพื้นที่ มีกี่แบบ?

จริงๆแล้ว ชั้นวางรองเท้า ทั่วๆไปจะมีหลากหลายรูปแบบมากๆ แต่สำหรับเล็งผลประหยัดพื้นที่โดยเฉพาะ จะมีทั้งหมดหลัก 4 รูปแบบด้วยกัน เช่นแนวตั้ง ซ่อนในตู้ แขวนผนัง ฯลฯ ซึ่งการเลือกนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่ และความพอใจของเจ้าของด้วย เราทำตารางเปรียบเทียบ ชั้นวางรองเท้าแบบ Space Saver มาให้ดูกันแต่ละแบบ

ประเภท ขนาด/มิติที่เหมาะ จุดเด่น ข้อควรระวัง เหมาะกับพื้นที่/ผู้ใช้ ระดับการประหยัดพื้นที่ ความจุรองเท้า (ประมาณ)
แบบแนวตั้ง (Vertical/Tower Rack) ฐานแคบ (กว้าง 25–35 ซม., ลึก 25–35 ซม.) สูง 100–180 ซม. ใช้พื้นที่พื้นน้อยมาก, จุได้หลายชั้น, หยิบง่ายตามระดับสายตา, เหมาะกับมุมว่างข้างตู้/ประตู ต้องยึดผนังป้องกันล้ม (ถ้ามีเด็ก/สัตว์เลี้ยง), ระวังรองเท้าบูตทรงสูงอาจใส่ไม่พอดีในบางชั้น คอนโด/ห้องเล็กที่มีเพดานสูงหรือผนังโล่ง สูง 10–25 คู่ (ขึ้นกับความสูง/จำนวนชั้น)
แบบบางเฉียบ (Slim/Shoe Cabinet) กว้าง 60–100 ซม., ลึก 12–20 ซม., สูง 80–120 ซม. หน้าตาเรียบร้อย, บานพับ/ถาดเอียงซ่อนรองเท้า กันฝุ่น, วางชิดผนังทางเดินได้ ลึกน้อย รองเท้าหน้ากว้าง/ไซต์ใหญ่ (เช่น 44+) อาจแน่น, ถาดเอียงต้องกระจายน้ำหนักให้ดี โถงทางเข้า/โถงทางเดินแคบ หน้าแตะผนัง สูง 8–20 คู่
แบบแขวนประตู (Over-the-Door Hanger) กว้าง 45–60 ซม., สูง 120–190 ซม. (ตามความสูงประตู) ไม่ใช้พื้นที่พื้นเลย, ติดตั้งง่าย, ย้ายตำแหน่งสะดวก, เหมาะกับรองเท้าน้ำหนักเบา รับน้ำหนักจำกัด, อาจทำให้บานประตูหนัก/เปิดปิดฝืด, ไม่เหมาะกับรองเท้าหนักหรือส้นสูงจำนวนมาก ห้องนอน/ห้องเก็บของที่มีประตูเหลือใช้ สูงมาก 8–18 คู่
แบบโมดูลาร์ (Modular/Stackable) ต่อชิ้นกว้าง/ลึก 30–40 ซม., สูง 20–25 ซม. (ซ้อนเพิ่มได้) ยืดหยุ่น จัดรูปทรงตามพื้นที่, ซ้อนแนวตั้งหรือจัดแนว L ได้, ถอดประกอบ/ย้ายง่าย หากไม่ยึดให้แน่นอาจโยก, วัสดุพลาสติกบางรุ่นรับรองเท้าหนักไม่ดี ควรเลือกแบบมีตัวล็อก ผู้เช่าหรือคนที่ย้ายบ้านบ่อย/พื้นที่รูปทรงไม่สม่ำเสมอ กลาง–สูง (ขึ้นกับการจัดวาง) ต่อโมดูล ~3–4 คู่ (ซ้อนได้ตามต้องการ)

 

วัสดุที่ควรใช้สำหรับชั้นวางรองเท้า ควรทำด้วยอะไร?

โดยมากแล้ว จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงพลาสติกแบบบาง (บางหรือไม่บาง ดูจากน้ำหนัก เหมือนกับ เก้าอี้พลาสติกแบบหนา) เนื่องจากเปราะแตกหักง่าย และควรมองวัสดุประเภท PP หรือ ABS ที่มีความหนาและแข็งแรงกว่า ซึ่งการเลือกชั้นวางนั้น จะแนะนำให้เลือกเป็นพลาสติกซะส่วนใหญ่ เนื่องจากหากเป็นไม้ หรือเหล็ก จะมีราคาสูงกว่า และหากอยากเปลี่ยนก็อาจต้องหาที่ทิ้งลำบากกว่า แต่สำหรับพลาสติกจะสามารถทำลายทิ้งได้เลย

วัดพื้นที่ที่จะใช้วางชั้นวางรองเท้า รวมถึงจำนวนรองเท้าด้วย

สมมติว่ามีพื้นที่แคบๆ บริเวณหน้าประตูห้องคอนโด และต้องการวางชั้นวางรองเท้า เรามีตัวอย่างในการวัดดังนี้

  1. วัดความกว้าง (Width): วัดจากขอบประตูไปจนถึงผนังอีกด้านหนึ่ง อาจได้ค่ามา 90 ซม.
  2. วัดความลึก (Depth): วัดจากผนังเข้าไปในห้อง อาจได้ค่ามา 30 ซม.
  3. วัดความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงเพดาน หรือสูงเท่าที่ต้องการให้ชั้นวางรองเท้ามี เช่น 200 ซม.

เมื่อได้ตัวเลขนี้ คุณก็จะทราบว่าต้องหาชั้นวางรองเท้าที่มีขนาดไม่เกิน กว้าง 90 ซม. x ลึก 30 ซม. และสามารถเลือกแบบที่ใช้ความสูงได้ตามต้องการ เช่น ชั้นวางแบบแนวตั้ง (Vertical) ที่สูง 180 ซม. เพื่อใช้พื้นที่ในแนวตั้งได้ effective ที่สุด


อย่างไรก็ดี สีของชั้นวางควรจะเลือกเป็นสีอ่อน เพื่อเข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ และสีของห้องได้ดีที่สุด (หรือจะเลือกตามเทรนด์สีในปีนั้นก็ได้) เพื่อให้กลมกลืน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นสีอ่อนแล้ว จะทำให้ห้องดูไม่อึดอัด รวมถึงควรตั้งอยู่ในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อให้เห็นตัวรองเท้า และสามารถหยิบมาใช้ได้ รวมถึงหากเป็นรองเท้าผ้าใบ อาจมีแมลงหรือสัตว์เล็กๆ เข้าไปอยู่ด้านใน จะได้เห็นก่อนใส่

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร