เก้าอี้พลาสติกกับหน้าหนาว ทำไมถึงชื้นง่าย ทำยังไงนั่งแล้วไม่เย็นหลัง

ทำไมเก้าอี้พลาสติกถึงชื้นง่ายในหมอกเช้า

เก้าอี้พลาสติก “เย็นกว่าลม” ได้ยังไง
ตอนกลางคืน โดยเฉพาะคืนฟ้าโปร่งไม่มีเมฆ เก้าอี้พลาสติกที่ตั้งอยู่กลางแจ้งไม่ได้แค่วางเฉยๆ แต่มันกำลังแผ่ความร้อนหนีออกไปทางท้องฟ้าตลอดเวลา พลาสติกอย่างโพลีโพรพิลีน (PP) และโพลีเอทิลีน (PE) ซึ่งเป็นวัสดุหลักในการทำเก้าอี้พลาสติก ซึ่งเป็นเก้าอี้คุณภาพสูงเกรด A มีคุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อนได้ดีในย่านอินฟราเรด ความร้อนที่แผ่ออกไปส่วนหนึ่งสามารถ “ทะลุ” ชั้นบรรยากาศขึ้นไปสู่อวกาศได้ ผลคืออุณหภูมิผิวเก้าอี้พลาสติกสามารถเย็นลงจนต่ำกว่าอุณหภูมิอากาศรอบๆ อยู่หลายองศา เมื่อผิวเก้าอี้เย็นลงจนถึงระดับ “จุดน้ำค้าง” ไอน้ำในอากาศที่ลอยไปลอยมาก็จะควบแน่น กลายเป็นหยดน้ำเกาะเต็มพื้นผิวที่นั่ง นี่แหละคือน้ำค้างที่เห็นบนเก้าอี้ในตอนเช้า น่าสังเกตว่าบางทีพื้นคอนกรีตหรือโต๊ะไม้ข้างๆ ยังดูไม่เปียกมากเท่าเก้าอี้พลาสติก เพราะวัสดุแต่ละชนิดมีพฤติกรรมการแผ่รังสีและการเย็นตัวที่ต่างกัน พลาสติกหลายแบบเลยเป็นเหมือน “ตัวดึงน้ำค้าง” ชั้นดีโดยไม่รู้ตัวทำไมเก้าอี้พลาสติกถึงกลายเป็นตัวดูดน้ำค้าง
ถ้ามองผ่านๆ ผิวเก้าอี้พลาสติกดูเรียบ ลื่น น่าจะไม่เกาะน้ำง่าย แต่ในความเป็นจริง พอใช้งานกลางแจ้งไปเรื่อยๆ เช่นพวก เก้าอี้อัฒจันทร์ ผิวพลาสติกจะเสื่อมจากแดด ฝน และรังสียูวี เกิดรอยแตกเล็กๆ ระดับมองไม่เห็นตาเปล่า ผิวด้านขึ้น และเกิดหมู่โมเลกุลที่ “ชอบน้ำ” มากขึ้น จากเดิมที่น้ำอาจเกาะเป็นหยดกลมๆ เล็กๆ จะเริ่มแผ่ตัวเป็นฟิล์มบางๆ เคลือบพื้นที่กว้างขึ้น แถมถ้าเก้าอี้มีลายไม้ ลายสาน หรือร่องเพื่อความสวยงาม ร่องเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือน “รางรับน้ำ” น้ำค้างจะเริ่มก่อตัวในร่องก่อน แล้วค่อยล้นออกมาเชื่อมกันกลายเป็นชั้นน้ำบางๆ ปูเต็มพื้นที่นั่ง เช้ามาแค่เอามือไปแตะ ก็รู้ทันทีว่านั่งลงไปทั้งตัวไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่อยากให้เสื้อผ้าเปียกหลังเย็นตั้งแต่วันยังไม่เริ่มทำไมแค่นั่งแป๊บเดียวถึงรู้สึก “หลังเย็นวาบ”
หลายคนสงสัยว่า พลาสติกก็ถือเป็นฉนวนความร้อนอย่างหนึ่ง ทำไมพอนั่งบนเก้าอี้พลาสติกเปียกๆ ถึงเย็นจี๊ดกว่าที่คิดไว้เยอะ คำตอบง่ายๆ คือ “น้ำ” ต่างหากที่เป็นตัวเร่งให้ความเย็นวิ่งเข้าหลังอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่พลาสติกเพียงอย่างเดียวน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจาก “เครื่องนุ่งห่ม” เป็น “ตัวนำความเย็น”
ตอนเสื้อผ้าแห้ง ช่องว่างเล็กๆ ระหว่างเส้นใยผ้าเต็มไปด้วยอากาศ ซึ่งทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี ความร้อนจากร่างกายจึงไม่ไหลออกเร็ว แต่พอเก้าอี้มีน้ำค้างติดอยู่ พอนั่งลงไป น้ำจะเริ่มซึมเข้าไปแทนที่ช่องอากาศในผ้า ปัญหาคือ น้ำพาความร้อนได้ดีกว่าอากาศหลายสิบเท่า ความร้อนจากแผ่นหลังและก้นก็เลยถูกดูดออกจากตัว ส่งลงไปสู่เก้าอี้พลาสติกที่เย็นจัดแบบรวดเร็วมาก ความรู้สึกที่ตามมาคือ “หลังเย็นวูบ” แทบจะทันทีที่นั่งลงน้ำระเหย = ดึงความร้อนออกจากตัวโดยตรง
พอเสื้อผ้าเปียก ความชื้นที่อยู่บนผิวผ้าและบนเก้าอี้ จะค่อยๆ ระเหยออกไป การระเหยของน้ำต้องใช้พลังงานความร้อน และพลังงานนี้ก็มาจากสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด นั่นคือ แผ่นหลังและกล้ามเนื้อของเรา ยิ่งมีลมพัดหรืออากาศแห้ง น้ำยิ่งระเหยเร็ว ความร้อนก็ยิ่งถูกดึงออกจากตัวมากขึ้น แม้เก้าอี้เริ่มอุ่นขึ้นบ้างแล้ว แต่ผิวหนังกลับเย็นลงต่อเนื่อง ทำให้รู้สึกหนาวเข้าไปถึงตัว ทั้งที่อุณหภูมิรวมๆ ของอากาศอาจไม่ได้ต่ำมากผ้าถูกกดจนไม่เหลือฟองอากาศให้ช่วยกันเย็น
ตอนเดินหรือยืน เสื้อมักจะฟู มีฟองอากาศเล็กๆ อยู่ระหว่างเส้นใยช่วยกันความเย็น แต่พอเรานั่งพิงเก้าอี้ น้ำหนักตัวจะไปกดเสื้อผ้าบริเวณแผ่นหลังและก้นให้แบนราบ อากาศในผ้าถูกไล่ออกไป เหลือแต่เนื้อผ้าบางๆ ที่แนบกับผิวหนัง เมื่อรวม “ผ้าแบน” กับ “ความชื้น” และ “เก้าอี้เย็นจัด” เข้าไว้ด้วยกัน ฉนวนกันความร้อนก็แทบไม่เหลือ ความเย็นจากเก้าอี้จึงวิ่งเข้าสู่ร่างกายแทบจะโดยตรงเคยรู้สึกมั้ย? บางทีเก้าอี้แห้ง แต่รู้สึกเหมือนเปียก
ผิวหนังของคนเราไม่มีตัวรับความรู้สึก “เปียก” โดยตรง สมองเลยใช้วิธีเอาสัญญาณหลายอย่างมาประกอบกัน เช่น การรู้สึกเย็นลงอย่างรวดเร็วและแรงกดจากพื้นผิว แล้วตีความเป็น “เปียก” เลยมีหลายครั้งที่นั่งลงบนเก้าอี้เย็นๆ แล้วรู้สึกเหมือนเก้าอี้เปียก ทั้งที่จริงๆ อาจจะแห้งสนิท แต่ในเช้าที่มีหมอกและน้ำค้างอยู่จริง ความรู้สึกเปียกนี้จะชัดขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะมีทั้งความเย็นและน้ำจริงๆ ร่วมกันทำงานทำยังไงให้นั่งเก้าอี้พลาสติกตอนเช้าได้แบบไม่เย็นหลัง
.jpg)
1. ป้องกันไม่ให้เก้าอี้กลายเป็นตัวเก็บน้ำค้าง
ย้ายตำแหน่งให้ “ไม่เห็นท้องฟ้าเต็มๆ” เพราะเก้าอี้เย็นจัดได้ก็เพราะมันแผ่ความร้อนออกไปสู่ท้องฟ้าโดยตรง การย้ายเก้าอี้ไปไว้ใต้กันสาด ใต้ร่มสนาม หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ จะช่วยลดการแผ่รังสีออกสู่อวกาศ ทำให้เก้าอี้ไม่เย็นจนถึงระดับดึงน้ำออกจากอากาศมาควบแน่นง่ายๆ ใช้ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกแบบ การคลุมเก้าอี้ก่อนนอนช่วยได้มาก แต่ควรเลือกผ้าคลุมที่กันน้ำได้และยังพอระบายอากาศได้บ้าง เพื่อไม่ให้ความชื้นจากดินหรืออากาศขังอยู่ใต้ผ้าคลุมเอง และเวลาคลุมควรดันผ้าให้เป็นทรงสูงๆ คล้ายเต็นท์เล็กๆ เพื่อให้น้ำสามารถไหลลงขอบ ไม่ขังเป็นแอ่งบนผ้าคลุม ทริกง่ายๆ ก่อนนอน: เอียงเก้าอี้ ถ้าไม่อยากใช้ผ้าคลุม อย่างน้อยก่อนเข้านอนลองเอียงเก้าอี้พิงโต๊ะ หรือวางให้ที่นั่งไม่ราบ น้ำค้างที่เกิดในตอนดึกจะไหลลงพื้นเอง แทนที่จะขังอยู่บนที่นั่ง ตอนเช้าก็แค่ดึงกลับมาตั้งตรง มักจะชื้นน้อยกว่าปล่อยตั้งราบทั้งคืน2. กั้นความเย็นและความชื้นไม่ให้ถึงตัว
เลี่ยงฟองน้ำทั่วไปที่ซับน้ำเก่ง เบาะรองนั่งราคาถูกหลายแบบทำจากฟองน้ำที่มีโครงสร้างคล้ายฟองน้ำล้างจาน ดูดน้ำเก่งมาก พอเปียกแล้วแห้งช้า ถ้าเอาไปวางบนเก้าอี้ที่มีน้ำค้าง น้ำจะถูกดูดเข้าไปในเบาะเต็มๆ พอนั่งทับ น้ำก็จะไหลย้อนกลับเข้าสู่เสื้อผ้าเราอีกที กลายเป็นถือว่าเราเอาฟองน้ำชุบน้ำเย็นมารองนั่งเอง ใช้แผ่นรองนั่งแบบโฟมเซลล์ปิด ถ้าอยากกันทั้งความเย็นและความชื้น แผ่นรองนั่งหรือเบาะแบบโฟมเซลล์ปิดคือพระเอกของงาน เพราะน้ำไม่ซึมเข้าไปในเนื้อโฟมง่าย ภายในแผ่นโฟมมีฟองอากาศเล็กๆ ขังอยู่ ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนให้ร่างกาย เมื่อนำไปวางบนเก้าอี้พลาสติกที่ชื้น โฟมเซลล์ปิดจะทำสองหน้าที่พร้อมกัน คือกันไม่ให้น้ำจากเก้าอี้ซึมขึ้นมา และกันไม่ให้ความร้อนจากตัวเราถูกดูดลงไปที่เก้าอี้ ความรู้สึกเย็นหลังจึงลดลงอย่างชัดเจน ทำเบาะใช้งานเองแบบง่ายๆ ถ้ายังไม่อยากซื้อของเฉพาะ แต่อยากลองทำเอง ลองใช้หลัก “แซนด์วิช” คือ ด้านล่างเป็นผ้ากันน้ำ เช่น ผ้าใบหรือผ้าคลุมรถเก่าๆ ตรงกลางใช้วัสดุที่ฟูและกักอากาศได้ เช่น ใยโพลีเอสเตอร์ ด้านบนใช้ผ้าที่ระบายอากาศดี นั่งสบาย การมีชั้นกันน้ำด้านล่างจะช่วยตัดเส้นทางความเย็นและความชื้นจากเก้าอี้ได้ดี3. ปรับการเลือกเก้าอี้และการดูแลให้เหมาะกับหมอกเช้า
เลือกทรงที่น้ำไม่ขังง่าย เก้าอี้พลาสติกแบบแผ่นทึบมักมีน้ำขังง่าย ต่างจากเก้าอี้ที่เป็นเส้นสาน หรือหวายเทียมที่เป็นพลาสติกถัก น้ำค้างจะไหลลงช่องว่างได้ ไม่ค่อยขังเป็นแอ่งใหญ่ แถมพื้นที่สัมผัสระหว่างตัวกับเก้าอี้ยังน้อยลง ทำให้ความเย็นถ่ายเทเข้าร่างกายได้ช้ากว่าเก้าอี้แผ่นทึบ จัดมุมให้โดนแดดเช้า ถ้ามุมสวนหรือระเบียงบ้านพอมีทางเลือก ลองจัดมุมเก้าอี้ให้รับแดดเช้าได้บ้าง แดดอ่อนๆ จะช่วยให้น้ำค้างระเหยเร็วขึ้น เก้าอี้อุ่นขึ้นก่อนใช้งานจริง เมื่อนั่งแล้วจะรู้สึกสบายกว่าเก้าอี้ที่อยู่ในที่ร่มแต่เย็นจัดตลอดทั้งคืน หมั่นทำความสะอาดเพื่อลดคราบเมือกและเชื้อรา น้ำค้าง ฝุ่น เกสรดอกไม้ และคราบสกปรก ต่างเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อราและตะไคร่น้ำ ถ้าปล่อยสะสมไปเรื่อยๆ จะเกิดเป็นชั้นเมือกบางๆ เคลือบเก้าอี้ ทำให้เก้าอี้อุ้มน้ำเก่งขึ้น แห้งช้าลง แถมยังลื่นและสกปรก การล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูเป็นระยะ ช่วยให้ผิวเก้าอี้สะอาด เรียบ และลดการเกาะตัวของน้ำ เช็ดให้แห้งก็ง่ายขึ้นด้วยตารางสรุปวิธีรับมือเก้าอี้พลาสติกกับหมอกเช้า
| ปัญหา | สาเหตุหลัก | วิธีจัดการ (โทนแดง Srithai) |
|---|---|---|
| ที่นั่งพลาสติกชื้นทุกเช้า | เก้าอี้แผ่ความร้อนออกสู่ท้องฟ้า ทำให้ผิวเย็นจนเกิดน้ำค้าง | ย้ายเก้าอี้ไปใต้กันสาด ใต้ร่ม หรือใต้ต้นไม้ ใช้ผ้าคลุมที่ระบายอากาศได้ หรือเอียงเก้าอี้ก่อนนอน |
| นั่งแล้วหลังเย็นวูบ | น้ำค้างซึมเข้าเสื้อผ้า เปลี่ยนอากาศในผ้าเป็นน้ำ ซึ่งพาความเย็นได้ดีกว่า | ใช้แผ่นรองนั่งแบบโฟมเซลล์ปิด หรือเบาะที่มีชั้นกันน้ำด้านล่าง ตัดเส้นทางการถ่ายเทความเย็น |
| เก้าอี้แห้งช้า มีเมือกลื่นๆ | เชื้อราและตะไคร่น้ำเติบโตบนผิวจากคราบสกปรกและน้ำค้างสะสม | ล้างเก้าอี้ด้วยน้ำสบู่อ่อน หรือผสมน้ำส้มสายชูเป็นระยะ เช็ดให้แห้ง ลดการเกิดไบโอฟิล์ม |
| รู้สึกเย็นแม้เก้าอี้ดูไม่เปียกมาก | ผ้าถูกกดแบน ฉนวนอากาศหายไป ผิวสัมผัสเก้าอี้เย็นจัด | เพิ่มชั้นรองนั่ง เลือกทรงเก้าอี้ที่น้ำไม่ขังง่าย เช่น แบบสานหรือหวายเทียม และจัดมุมให้โดนแดดเช้า |





