พลิกเกมโลจิสติกส์ ลังกระจายสินค้า แบบซ้อนกันได้ เพิ่มพื้นที่ขนส่งเยอะแค่ไหน?

พลิกเกมโลจิสติกส์ ลังกระจายสินค้า แบบซ้อนกันได้ เพิ่มพื้นที่ขนส่งได้เยอะมั้ย

ถ้าเปลี่ยนจากลังธรรมดามาใช้ “ลังกระจายสินค้าที่ซ้อนเก็บ/พับได้” พื้นที่ขนส่งขากลับตอนลังเปล่า ลดลงได้ราว 75% – ~79% (ขึ้นกับสเปกการพับ/ซ้อน) แปลว่าใช้คันรถ/เที่ยววิ่งน้อยลงอย่างเห็นภาพ ต้นทุนโลจิสติกส์ลดลงทันที และโกดังใช้พื้นที่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอน

ยุคของพื้นที่ที่ “มีค่า” มากกว่าน้ำหนัก

ในโลกจริงของคลังและขนส่ง เรามัก “ตัน” ด้วย ปริมาตร ก่อนน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นรถตู้ทึบ รถหกล้อ ตู้คอนเทนเนอร์ หรือพื้นที่ชั้นในคลัง ทุกลูกบาศก์เมตรคือเงิน การใช้กล่อง/ลังที่พับไม่ได้หรือซ้อนไม่ดี จึงเหมือนจ่าย “ค่าพื้นที่เพิ่ม” โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะช่วงขากลับตอนลังเปล่า กินที่เท่าเดิม แต่ไม่สร้างรายได้ ได้ (ไม่นับรวมกับการรับของกลับ อาจมีรายได้ในส่วนตรงนั้น) นี่คือเหตุผลที่ Reusable Transport Packaging (RTP) อย่างลังแบบซ้อนกันได้ (Stackable), ซ้อนเก็บในตัว (Nestable) และพับเก็บได้ (Collapsible) กลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์สำหรับทีมโลจิสติกส์ยุคใหม่: แข็งแรงกว่า ใช้ซ้ำได้ยาว และสำคัญที่สุด—ประหยัดปริมาตร ได้โหดมาก

อะไรคือปัญหาคลาสสิคของเรื่องนี้?

  • ลังเปล่าขากลับกินที่มหาศาล ทำให้ต้องเพิ่มเที่ยววิ่งโดยไม่จำเป็น
  • พื้นที่คลังแน่น แค่วางลังเปล่าก็เต็มชั้น
  • เสียแรงงานกับการประกอบ/รื้อ/ติดเทปบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง
  • รูปทรงไม่สม่ำเสมอ ซ้อนไม่แน่น พังง่ายตอนไหวตัว/เข้า-ออกพาเลท

ตอบคำถาม : เพิ่มพื้นที่ขนส่งได้ “กี่เปอร์เซ็นต์” กันแน่?

คำตอบอยู่ที่ตัวชี้วัดง่าย ๆ คือ อัตราส่วนการซ้อนเก็บ (Nesting / Knock-Down Ratio: KDR) ตัวเลขนี้บอกว่า “ลังเปล่ากี่ใบ” ซ้อนได้เท่าความสูง “ลัง 1 ใบ” ที่ไม่พับ/ไม่ซ้อน
เมตริกประสิทธิภาพ อัตราส่วน (Ratio) การเพิ่มพื้นที่/ลดปริมาตร (ประมาณการ) บริบทการใช้งานหลัก
การซ้อนเก็บมาตรฐาน (Standard Nesting) 4:1 ลดปริมาตรขากลับ ~75% รถบรรทุก/คลัง ตอนลังเปล่า
การยุบตัวสูงสุด (High KDR) 4.7:1 ลดปริมาตรขากลับ ~78.7% โซลูชันพับได้รุ่นพรีเมียม
ตู้คอนเทนเนอร์พับได้ (อ้างหลักการเดียวกัน) 3-in-1 ลดปริมาตรจัดเก็บ ~66% บริหารคืนตู้เปล่าทางเรือ/ราง
จะเห็นว่าแค่เปลี่ยน “ชนิดลัง” ก็เปลี่ยนเกมทันที—เที่ยววิ่งลดลง, คลังโล่งขึ้น, ค่าน้ำมันและค่าแรงถูกลงแบบจับต้องได้

สูตรคิดแบบบ้าน ๆ ให้เห็นภาพ

ถ้า KDR = 4:1 แปลว่า “สูง 4 ใบ = สูง 1 ใบ” ⇒ ความสูง/ปริมาตรตอนว่าง ลดเหลือ 25% ของเดิม ⇒ ประหยัด 75%
KDR ปริมาตรที่เหลือเมื่อพับ/ซ้อน ปริมาตรที่ประหยัดได้
4:1 25% 75%
4.7:1 ≈ 21.3% ≈ 78.7%

จาก “พื้นที่” สู่ “ตัวเงิน”: ต้นทุนลดลง และกำไร ที่ดีดขึ้นจริง

ลังพับ/ซ้อนที่ดี ราคาซื้ออาจสูงกว่ากล่องใช้แล้วทิ้ง แต่ถ้ามองแบบ Total Cost of Ownership (TCO) หลายปี จะเห็นกำไรซ่อนอยู่เพียบ เพราะคุณกำลังตัด “ภาษีที่มองไม่เห็น” ออกไปจากระบบ:
หมวดต้นทุน บรรจุภัณฑ์ใช้ครั้งเดียว RTP (ลังซ้อน/พับได้) ผลกระทบต่อ TCO
แรงงาน (ประกอบ/รื้อ/ติดเทป) สูง (เสียเวลาทุกกล่อง) ต่ำ (หยิบใช้-ปิดฝา จบ) ประหยัดเวลา = ลดค่าแรงซ้ำซ้อน
ความเสียหายสินค้า สูง (โครงสร้างยุบง่าย) ต่ำ (แข็งแรง ซ้อนนิ่ง) เคลมลด ความพึงพอใจลูกค้าเพิ่ม
ขยะ/การกำจัด สูง (ต้องอัด/ทิ้ง) ต่ำ (ใช้ซ้ำได้หลายร้อยรอบ) ลด GHG และค่าเก็บกวาด
ความสม่ำเสมอรูปทรง ต่ำ (ซ้อนไม่แน่น) สูง (มิติเป๊ะ รองรับออโต้) ทำงานกับ ASRS/AGV ได้เสถียร
ของแถมจากพื้นที่ที่ประหยัดได้ คือการจัดเส้นทาง (routing) ที่ฉลาดขึ้น: เที่ยววิ่งลดลง, backhaul ดีขึ้น, เติมสินค้ากลับจุดกระจาย (cross-dock) ได้มากขึ้นในเที่ยวเดียว—ทั้งหมดนี้สะท้อนเป็น ROI ที่จับต้องได้ภายใน 12–24 เดือนในหลายเคส

สรุป

คำตอบของคำถาม “เพิ่มพื้นที่ขนส่งได้กี่เปอร์เซ็นต์?” สำหรับลังกระจายสินค้าแบบซ้อน/พับได้ คือ ประมาณ 75% ถึงราว 79% ในบริบท ขนส่งขากลับตอนลังว่าง ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่สวยหรูบนกระดาษ แต่แปลเป็นของจริงที่หน้างาน: รถวิ่งน้อยลง คลังโล่งขึ้น สินค้าเสียหายน้อยลง และทีมทำงานเร็วขึ้น การลงทุนกับ RTP ที่ออกแบบเพื่อ “ปริมาตร” จึงเป็นการย้ายจากแนวคิดต้นทุนซื้อถูก ไปสู่ผลตอบแทนระยะยาวที่จับต้องได้ ถ้าอยากเริ่มแบบเสี่ยงต่ำ แนะนำทดสอบ หนึ่งเส้นทางขากลับ ที่มี empty volume สูงที่สุด เลือก KDR ≥ 4:1 ติด KPI แบบปริมาตร/เที่ยววิ่ง 4–8 สัปดาห์ แล้วเทียบตัวเลขก่อน-หลัง คุณจะเห็นว่า “พื้นที่” คือกำไรชิ้นใหญ่ที่เคยมองข้ามไปตลอดมา

อ้างอิง https://flexcontainer.com/product-category/collapsible-containers/  | https://logimarkt.com/stackable-nestable-plastic-containers/ | https://www.mdpi.com/2071-1050/13/9/4730

ลังกระจายสินค้าแบบซ้อนของ Srithai Superware — ประหยัดพื้นที่จริง ตอบโจทย์งานคลังและขนส่ง

ถ้างานโลจิสติกส์กำลัง “ตันด้วยพื้นที่” มากกว่าน้ำหนัก แปลว่าถึงเวลาย้ายมาใช้ ลังอุตสาหกรรมที่ซ้อนแน่นและจัดระเบียบง่าย ของ Srithai Superware แล้ว จุดเด่นอยู่ที่ฐานมาตรฐาน 40×60 ซม. วางลงพาเลท 1.0×1.20 ม. ได้ ชั้นละ 5 ใบ ซ้อนขึ้นเป็นชั้นได้มั่นคง ไม่เสียช่องว่าง กระจายน้ำหนักดี ช่วยให้ขนส่ง/เก็บสำรองได้ คมกริบกว่าเดิม ทั้งในรถและในคลัง

ทำไมรุ่น CBL ถึงช่วย “คืนพื้นที่” ให้คุณ

  • ซ้อนนิ่ง มิติเป๊ะ: ขนาดมาตรฐานช่วยแพ็กเต็มชั้นได้จริง ลดช่องว่างลอย ๆ บนรถและบนชั้นวาง
  • ฐานแข็งแรง รับน้ำหนักดี: ดีไซน์หนา เสริมโครงรอบใบ ซ้อนสูงได้อย่างมั่นใจ
  • หยิบ-ยก-ลากสะดวก: มีกันกระแทกรอบตัวจับ ลดบาดมือ ลดความเสี่ยงทำตก
  • จัดระเบียบงานง่าย: มีช่องเสียบป้าย (Tag Card) และร่องผูกเชือก 4 มุม + รูคล้องสายรัด ระหว่างลัง
  • แยกงานตามสีได้ทันที: หลายสีให้เลือก ใช้แยกประเภทสินค้า/โซน/ลูกค้า ลดความสับสนหน้างาน
  • ใช้งานได้ทั้งอินดอร์/เอาต์ดอร์: พลาสติกเกรดดี ทนทานต่อสภาวะแวดล้อม ใช้ในร้าน-ครัว-โรงเรือน-ท้ายรถ ได้หมด

สเปกหลัก (รุ่น CBL 230 / CBL 230 S)

รายการ รายละเอียด
รุ่น CBL 230 / CBL 230 S (ความสูง 2 ขนาด วางซ้อนร่วมกันได้)
สี (CBL 230) สีเขียวอ่อน, สีดำ, สีน้ำเงิน
สี (CBL 230 S) สีแดง, สีเหลือง, สีม่วง
ขนาดภายนอก (Ex.) 40 × 60 × 23 ซม.
ขนาดภายใน (In.) 36.5 × 56.5 × 21.5 ซม.
วัสดุ พลาสติกคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ใช้ซ้ำได้ยาว
การใช้งาน งานทั่วไป/ท้ายรถ, ร้านค้า/ร้านอาหาร, โชว์ผักผลไม้, จัดเก็บวัตถุดิบ, พืชผลการเกษตร, งานขนถ่ายในอุตสาหกรรม
การวางบนพาเลท พาเลท 1.0 × 1.20 ม. ได้ชั้นละ 5 ใบ ซ้อนขึ้นชั้นได้ตามแผนงาน
ฟังก์ชันเสริม กันกระแทกรอบตัวจับ, ช่องเสียบ Tag Card, ร่องรองรับเชือก 4 มุม, รูคล้องสายรัดระหว่างลัง

ใช้ในชีวิตจริงได้แบบไหนบ้าง

  • ค้าปลีก/ร้านผักผลไม้: ใช้โชว์หน้าร้านได้เลย สีช่วยแยกชนิดผัก/โซนขาย
  • ครัว/ร้านอาหาร: แยกวัตถุดิบสด-แห้ง ล้างง่าย หยิบง่าย
  • เกษตร/ฟาร์ม: ขนผลผลิตจากแปลงเข้าโรงเรือน ลดช้ำจากการเคลื่อนย้าย
  • คลัง/ศูนย์กระจายสินค้า: แพ็กเต็มชั้นบนพาเลท ซ้อนสูงได้มั่นคง เคลื่อนย้ายเร็ว
  • ใช้งานส่วนตัว: จัดท้ายรถ/ห้องเก็บของ ให้หยิบจับง่ายและเป็นระเบียบ
Quick Win เรื่อง “พื้นที่” — ฐานมาตรฐาน 40×60 ซม. + ซ้อนนิ่ง = ใช้พื้นที่คุ้มกว่าเดิมทั้งบนรถและในคลัง ลดรอบการขนกลับลังเปล่าที่ไม่จำเป็น และช่วยให้โซน backhaul โล่งขึ้นอย่างเห็นภาพ

เลือกสี/รุ่นที่ใช่ แล้วเริ่มจัดระเบียบพื้นที่

CBL 230 — สีเขียวอ่อน
งานเกษตร/ร้านผักผลไม้ มองสีแล้วรู้ทันทีว่าเป็นโซน “ของสด”
สั่งซื้อสีเขียวอ่อน
CBL 230 S — สีแดง
แยกงานเร่งด่วน/สินค้าอ่อนไหว ให้ทีมเห็นเด่นชัด
สั่งซื้อสีแดง
CBL 230 S — สีเหลือง
หมวดวัตถุดิบแห้ง/อุปกรณ์ ใช้สีช่วยกันสับสน
สั่งซื้อสีเหลือง
CBL 230 — สีดำ
งานคลัง/อุตสาหกรรม ดูแลรักษาง่าย คราบไม่เด่น
สั่งซื้อสีดำ
CBL 230 S — สีม่วง
สีเฉพาะกิจ แยกสินค้าพิเศษ/โซน QC ให้เด่นชัด
สั่งซื้อสีม่วง
CBL 230 — สีน้ำเงิน
เหมาะกับโซนแช่เย็น/สินค้าอุณหภูมิควบคุม แยกสีชัดเจน
สั่งซื้อสีน้ำเงิน

ทิปจัดเลย์เอาต์บนพาเลทให้คุ้มพื้นที่

  1. จัดแพทเทิร์น 40×60 ให้เต็มชั้น: พาเลท 1.0×1.20 ม. วางได้ชั้นละ 5 ใบตามสเปก → ช่องว่างขอบน้อย
  2. ยึดสายรัดแบบคุมแนวตั้ง: ใช้รูคล้องระหว่างลัง + ร่องมุม 4 ด้าน ให้แรงรัดกด “ลงมุม” ไม่กดฝากลางใบ
  3. ใช้สีช่วยแยกเส้นทาง: ตัวอย่าง “แดง = ด่วน / เหลือง = วัตถุดิบแห้ง / เขียว = ผักผลไม้สด” ทีมยกเห็นแล้วตัดสินใจเร็ว

คำตอบสั้น ๆ: ช่วยประหยัดพื้นที่ยังไง?

ฐานมาตรฐาน + ซ้อนนิ่ง = ความหนาแน่นต่อชั้นสูงขึ้น และ แพ็กเต็มพาเลทได้จริง ทั้งบนรถและในคลัง ลดเที่ยววิ่งขากลับที่เปลืองพื้นที่ “ลังเปล่า” และทำให้โซนรับ-จ่ายของโล่งขึ้น เห็นประโยชน์ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เริ่มใช้

พร้อมอัปเกรดพื้นที่ของการขนส่งแล้วหรือยัง? เลือกสี เลือกรุ่น แล้วเริ่มจัดระเบียบการขนส่ง/คลัง ให้ “พื้นที่” กลับมาทำเงินให้มากขึ้นประหยัดต้นทุนกว่าเดิมแน่นอน

อ่านต่อเรื่องน่ารู้ในศรีไทย ซุปเปอร์แวร์

รวมลิงก์บทความจากเว็บไซต์ทางการ Srithai Superware สำหรับศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

 

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร