การแยกขยะเป็นประเภท เป็นเรื่องที่ประเทศไทยเรามีการพูดถึงกันมานานหลายปีแล้ว จนล่าสุด นโยบายจากทางกรุงเทพมหานครที่ใช้ชื่อว่า บ้านนี้ไม่เทรวม ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะมีการเก็บค่าเก็บขยะ ที่ 60 บาท หากไม่แยก และ 20 บาท ต่อเดือน หากมีการแยก และในเรื่องนี้ ถังขยะแบบแยกประเภท เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดเลยทีเดียว

ถังขยะแยกประเภท ซื้อเตรียมไว้ ลดค่าใช้จ่าย ช่วยลดงบประมาณ

ถังขยะแยกประเภท เป็นการแยกขยะออกตามชนิดต่างๆ ก่อนนำไปทิ้ง เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ การนำไปรีไซเคิล การนำกลับมาใช้ใหม่ หรือการกำจัดอย่างถูกวิธี การแยกขยะตั้งแต่ต้นทางที่บ้านหรืออาคารต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ ลดมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพในการนำขยะกลับไปใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วจะแยกออกเป็น 4 สีด้วย เพื่อง่ายต่อการจำ คือ

สีเหลือง สำหรับขยะ Recycle

เป็นขยะที่สามารถนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อกลับมาใช้ใหม่ได้เช่นพวก พลาสติก ขวดน้ำดื่ม (PET), ขวดนม (HDPE), ขวดแชมพู, ขวดน้ำยาทำความสะอาด, ถุงพลาสติกสะอาด (ที่ไม่มีเศษอาหารปนเปื้อน) กระดาษต่างๆ และ แก้ว โลหะ รวมถึง กล่องอาหารพลาสติก 

ถังขยะสีน้ำเงิน สำหรับขยะทั่วไป

เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก ไม่คุ้มค่าที่จะนำไปรีไซเคิล หรือเป็นขยะที่ปนเปื้อนจนไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เช่นพลาสติกปนเปื้อน ถุงอาหารที่มีเศษอาหาร เศษผ้า เศษไม้ กระเบื้อง ผ้าอ้อมใช้แล้ว ก้นบุหรี่ ฯลฯ

หากเป็นสีเขียว จะเป็นขยะเปียก 

ขยะอินทรีย์ทั้งหลาย ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น อาหารทุกประเภท ผลไม้ ข้าว แกง ใบไม้ กิ่งไม้ ซึ่งของพวกนี้เมื่อแยกแล้ว จะสามารถนำไปใช้ทำปุ๋ยหมักชีวภาพได้

ถังขยะสีแดง สำหรับขยะอันตราย

เป็นถังขยะที่รองรับสารอันตราย สารพิษ หรือสารกัดกร่อน ยกตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ (โทรศัพท์มือถือ, รถยนต์), ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ กระป๋องสเปรย์ ยาหมดอายุ ขวดน้ำเกลือ ซึ่งขยะพวกนี้จะต้องได้รับการจัดการเป็นพิเศษ

ไม่จำเป็นต้องมีหลายสี ถังขยะแยกประเภท มีหลายรูปแบบให้เลือก

ในปัจจุบันการเอาถังขยะทั้ง 4 สี มาวางไว้ในบ้านหรือนอกตัวบ้าน แม้แต่อาคารพาณิชย์ ก็อาจเปลืองพื้นที่ หากเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานบ่อย ดังนั้น การแยกประเภทขยะอาจไม่จำเป็นต้องเป็นตามสี เพราะ เรามี ถังขยะแยกประเภทหลายรูปแบบ

ตัวอย่างถังขยะแยกประเภทแบบง่ายๆ ไม่เปลืองงบ

การที่มีถังขยะหลายสีเพื่อที่จะให้เราจดจำได้ แต่สำหรับบ้านที่เน้นสไตล์ และต้องการโทนสีกลางๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการแยกสี แต่อาจเป็นไอเดียที่เอาถังขยะแยกประเภท สำหรับประหยัดพื้นที่ แบบเรียงซ้อนกันได้ มาวางมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน และอาจมีการแปะโน๊ตเอาไว้ สำหรับการแยกประเภท โดยจุดประสงค์อย่างเดียวคือการแยกขยะให้ถูกต้องนั่นเอง   และสำหรับที่ ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เรามี ถังขยะแยกประเภทหลายรุ่น ทั้งแบบมีลาย และไม่มีลาย เพื่อสำหรับการแยกขยะ เศษอาหาร ขยะที่เป็นพิษ เพื่อการแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ มีขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะเพราะสามารถวางซ้อนกันได้ด้วย ดูเพิ่มเติม

1. ถังขยะแยกประเภท 2 ชั้น ราคา 499 บาท
2. ถังขยะแยกประเภท ลายน่ารัก 2 ชั้น ราคา 599 บาท  

รู้หรือไม่? ถังขยะขนาดใหญ่ ก็สามารถแยกประเภทได้ 

แทนที่จะทิ้งทุกอย่างลง ถังขยะขนาดใหญ่อย่างเช่น 120 ลิตร ทันที ควรมีถังขยะใบเล็กๆ แยกประเภทขยะไว้ในบ้านก่อน โดยอาจแยกถังตามด้านบนและแปะป้ายกำกับเอาไว้ หรือ อาจจะเป็นการใช้ถุงพลาสติกเป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีน้ำเงินได้ด้วย และเมื่อแยกขยะเปียก, ขยะรีไซเคิล, และขยะอันตรายออกไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือ ขยะทั่วไป ให้นำขยะทั่วไปที่ใส่ถุงและมัดปากเรียบร้อยแล้วไปทิ้งลงในถัง 120 ลิตร นั่นเอง

เตรียมรับนโยบาย "บ้านนี้ไม่เทรวม" โดยการลงทะเบียนไว้ก่อน

กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินโครงการ "บ้านนี้ไม่เทรวม" โดยมีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดและจัดการขยะ โดยจะมีการใช้โครงการนี้ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2568 นี้เป็นต้นไป และรับสิทธิ์ลดค่าเก็บขยะเหลือแค่เพียง 20 บาท ต่อเดือนเท่านั้น (แยกเป็นค่าเก็บ 10 บาท ค่ากำจัด 10 บาท)

วิธีรับสิทธิ์ลดค่าธรรมเนียม:

ประชาชนต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว แอปพลิเคชันจะแจ้งเตือนให้ส่งภาพหลักฐานการคัดแยกขยะ 4 ประเภท ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้

  ดังนั้นการ ซื้อถังขยะแยกประเภทในช่วงนี้ น่าจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่สุดในชั่วโมงนี้ แต่ที่สำคัญ อย่าลืม แยกประเภทอย่างจริงจัง ทำให้เป็นนิสัย และ คัดแยกให้ถูกต้อง พวกเราจะได้ช่วยกันประหยัดงบประมาณในการกำจัดขยะ ได้ลดโลกร้อน ฝึกวินัยและความจำ รวมถึงได้ประหยัดค่าเก็บขยะอีกต่างหาก